วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2552

โลกนี้ยังมีฉันอยู่

ค่ำคืนที่ฟ้าไร้ดาว เหมือนเราที่ไม่เคยมีใคร
ท้องฟ้าจะเศร้าเหมือนอย่างเราไหม
ในคืนที่ดาวไม่มาใส่ใจเหมือนอย่างที่ใครๆไม่เคยแลเหลียวเรา
ลมแรงๆพัดมาพาให้เหน็บหนาวแต่ก็ยังไม่เท่าภายในใจที่มันหนาวเหน็บ
ความรู้สึกเจ็บร้องถามแต่ก็ต้องสะกดมันเอาไว้
สั่งเบาๆเข้าไปข้างใน
ใจเอยเธอต้องทนให้ไหวเห็นเข็มนาฬิกาไหมอีกไม่นานก็เช้าแล้ว
แต่เข็มนาฬิกาทำไมช่างใจร้ายยิ่งคอยนับเหมือนไม่อยากจะเคลื่อนไหว
หรือว่าเวลาจะเป็นใจให้คืนนี้อยู่ไปนานๆ
ทุกๆค่ำคืนฉันพร่ำภาวนาขอให้พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับวันใหม่
วันที่ไม่ทำให้เหงาใจวันที่มองฟ้าสดใสกว่าทุกๆวัน
แต่ฝันก็ไม่เคยเป็นจริงเพราะสิ่งที่เห็นมีเพียงความว่างเปล่า
ความเศร้าลำพังยังไม่ได้จางหาย
ความรู้สึกเช่นนี้จะมีใครรับรู้บ้างไหมว่ามันกัดกร่อนแทะเล็มดวงใจ
ทั้งเจ็บทั้งปวดร้าวใจยากเกินจะพรรณนา

วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2552

19-ข้อคิดนำให้ชีวิตมีสุข

ข้อแนะนำในการดำเนินชีวิต
1.ระลึกเสมอว่าการจะได้พบความรักและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ต้องประสบกับความเสี่ยงอันมหาศาลดุจกัน
2.เมื่อคุณแพ้อย่าลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน
3. จงปฏิบัติตาม 3Rs (3.1) เคารพตนเอง (Respect for self) (3.2) ต้องเคารพผู้อื่น (Respect for others) (3.3)รับผิดชอบต่อการกระทำของตน (Responsibility for all your actions
4.จงจำไว้ว่า การที่ไม่ทำตามใจปรารถนาของตน บางครั้งก็ให้โชคอย่างน่ามหัศจรรย์
5.จงเรียนรู้กฎเพื่อที่จะทราบวิธีการฝ่าฝืนอย่างเหมาะสม
6.จงอย่าปล่อยให้การทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย มาทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ของคุณ
7.เมื่อคุณรู้ว่าทำผิด จงอย่ารอช้าที่จะแก้ไข
8.จงใช้เวลาในการอยู่ลำพังผู้เดียวในแต่ละวัน
9.จงอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง แต่อย่าปล่อยให้คุณค่าของคุณหลุดลอยจากไป
10.จงระลึกไว้ว่า บางครั้งความเงียบก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด
11.จงดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อที่ว่าเมื่อคุณสูงวัยขึ้นและคิดหวนกลับมา คุณจะสามารถมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำลงไปอีกครั้ง
12.บรรยากาศอันอบอุ่นในครอบครัวเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต
13.เมื่อเกิดขัดใจกับคนที่คุณรัก ให้หยุดไว้แค่เรื่องปัจจุบัน อย่าขุดคุ้ยเรื่องอดีต
14.จงแบ่งปันความรู้เพื่อเป็นหนทางก้าวสู่ความเป็นอมตะ
15.จงสุภาพกับโลกใบนี้
16.จงหาโอกาสท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆที่คุณไม่เคยไป อย่างน้อยก็ปีละครั้ง
17.จำไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดก็คือความรักมิใช่ความใคร่
18.จงตัดสินความสำเร็จของตนด้วยสิ่งที่ต้องเสียสละ
19.จงเข้าใกล้ความรักด้วยการปล่อยวาง
ข้อคิดดีๆจากพุทธศาสนา ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552

จงเชื่อมั่นแล้วเดินตามเสียงหัวใจ

ฉันคือผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งบนโลกใบนี้ที่มีความฝัน ความบ้าบอในตัวฉันคือชอบฝันไปไกลแสนไกลและชอบทำอะไรที่ไกลเกินฝัน ความอ้างว้างกับความเหงาเขาอยู่เป็นเพื่อนฉัน เราโอบกอดกันทุกวัน มันเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยทอดทิ้งฉันไป ในความอ้างว้างฉันพยายามฟังให้ได้ยินเสียงของความรัก แต่เสียงนั้นช่างอยู่แสนไกลเอื้อมมือคว้าไปก็เจอแต่ความว่างเปล่า บนความเงียบเหงาท้องฟ้าดูเศร้าดวงดาวหม่นหมอง เราต่างประคองกันร้องให้ให้กับความว่างเปล่าเดียวดาย หยาดฝนกำลังโปรยปรายพร้อมกับดวงตาฉันน้ำตากำลังรินไหล น้ำตาของฉันมันมาจากความอ่อนไหวเป็นอาการสั่นสะเทือนของหัวใจและหยดน้ำใสๆที่หล่นจากฟ้ามันมาจากไหนหรือว่ามีใครแอบไปทำให้ฟ้าช้ำใจฟ้าจึงร้องให้ออกมาเหมือนอย่างฉัน หากเป็นเช่นนั้นวันนี้เราจะอยู่ร้องให้เป็นเพื่อนกัน

ดวงดาวเอยเธอเห็นเหมือนกับฉันไหมอย่างน้อยวันนี้ที่เรากำลังเสียใจวันที่เราไม่มีใครข้างกาย เราก็ยังมีท้องฟ้าที่ยิ่งใหญ่มาร้องให้เป็นเพื่อนกัน ไม่ว่าจะนานแค่ไหนฟ้าก็ยังเป็นฟ้าที่ไม่ต้องการอะไร เป็นฟ้าใจดีเป็นฟ้าที่มีค่าและท้องฟ้าไม่เคยคิดจะจากเราไป ถึงใครจะไม่ใส่ใจเราก็ปล่อยเขาเพราะเรามีฟ้าที่ยังเป็นของเราอยู่ และฉันก็รู้ว่าท้องฟ้าจะไม่ทิ้งกันเพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้ต่อไปฉันขอให้สัญญาต่อดวงดาวและจันทราว่า พรุ่งนี้ฉันจะเป็นคนใหม่ต่อไปฉันจะไม่สะกดคำว่าแพ้ ฉันจะไม่ให้ใครบอกว่าฉันเป็นคนอ่อนแอและฉันจะไม่ยอมสิ้นหวัง พรุ่งนี้ฉันจะมีพลัง และพรุ่งนี่ฉันจะยังหยัดยืนอยู่บนโลกใบนี้

ถึงฉันจะเคยผิดพลาดแต่ฉันจะไม่ยอมหยุดฝัน ฉันไม่แคร์ว่าใครจะมองว่าฉันบ้าหรือบางคนที่ด่าว่าฉันโง่ ฉันจะไม่ไปร้องขอให้เขาหุบปากหรืออ้อนวอนให้เขาช่วยมองฉันใหม่ เพราะว่าคำๆนั้นมันช่วยเสริมให้ชีวิตฉันบินไปได้ไกล คำๆนั้นมันทำให้ฉันมองเห็นแสง และทุกครั้งที่ฉันมองเห็นแสงฉันเชื่อว่าฉันจะต้องมีความหวังและที่นั่นก็ต้องมีความสมหวังรออยู่หัวใจมันสั่งให้ฉันสู้ฉันก็ต้องสู้ตามเสียงของหัวใจ เมื่อความเศร้าพ้นผ่านเราจะเจอปรากฏการณ์ใหม่ท้องฟ้าสดใส ทุ่งหญ้าเขียวขจี บนความเจ็บปวดย่อมมีความหวังเจืออยู่หากเราเรียนรู้ที่จะเข้าใจและพร้อมที่จะให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นใหม่ มองเห็นสิ่งใหม่ๆ ชีวิตมีไว้ให้สู้ก็ต้องสู้กันต่อไปนะคะ

ฉันอยู่ตรงนี้นะ (ยิ่งกว่าคำว่ารักมากว่าคำว่าเพื่อน)

มีหลายคนบอกเอาไว้ ว่าคนเราต้องใช้เวลานานแสนนานกว่าที่จะค้นพบกับใครสักคนที่เป็นเพื่อนแท้เพื่อนที่พร้อมจะอยู่รับรู้และรับฟังแบ่งปันทุกข์สุขในชีวิตซึ่งกันและกัน แต่สำหรับตัวฉันแล้ว...สิ่งที่ยากยิ่งกว่านั้นก็คือการรักษามิตรภาพความเป็นเพื่อนเอาไว้ให้นานแสนนาน แต่ฉันก็จะสัญญาว่าฉันจะทำให้เธอได้สำหรับคนที่ฉันได้เรียกเขาว่าเพื่อน

เพื่อนของฉัน ฉันรู้ว่าเธอมีความฝันและฉันก็รู้ว่าเส้นทางแห่งความฝันของเธอนั้นมันยังอีกยาวไกลเธออาจต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมายกว่าที่จะคว้าเป้าหมายได้อย่างที่ใจเธอฝัน มันอาจจะมีวันที่เธอเหนื่อย วันที่เธอหมดกำลังใจ วันที่เธออ่อนแอ วันที่เธอรู้สึกย่ำแย่กับผู้คนแต่เธอจงอย่าท้อ ขอให้เธอคิดทุกครั้งที่เธอหมดหวังว่าเธอยังมีฉันอยู่ เพื่อนคนนี้ยังคอยเป็นกำลังใจให้เธออยู่และจะเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไป จำคำของฉันไว้วันที่เธอไม่ไหวให้มองกลับมา ฉันอยู่ตรงนี้นะฉันยังเป็นเพื่อนของเธอ

อดีตที่ผ่านมาฉันรู้ว่าเธอเจ็บและฉันก็ไม่อยากให้เธอเก็บมันเอาไว้ อารมณ์ที่เป็นเมื่อวานปล่อยให้มันผ่านไป ในวันพรุ่งนี้จะมีเราคนใหม่อยู่บนโลกใบเดิม แต่เป็นโลกที่สะกดด้วยคำว่ารักและความไว้ใจ รู้ไหมตอนนี้ฉันอยากให้เธอเอามือเธอมาวางบนมือฉันไว้ แล้วไม่ต้องพูดอะไร หรือหากเธอมีบางอย่างที่อยากระบายแต่อายที่จะให้ฉันรู้ ก็ขอให้เธอพูดอยู่ในใจหรือไม่ถ่ายมันออกไปกับน้ำตาเธอไม่ต้องกลัวว่าฉันจะมองว่าเธอบ้า ขอให้รู้ไว้นะว่าฉันเข้าใจ เพื่อนที่ดีไม่ต้องการที่จะตอกย้ำให้เพื่อนพูดคำว่าฉันเสียใจ เพราะคำนั้นมันไม่มีความหมาย เพราะอะไรรู้ไหม ก็เพราะว่าเราเป็นเพื่อนกัน เราเป็นเพื่อนกันไง

เธอรู้ไหมความหมายของคำว่าเพื่อนฉันเขียนมันด้วยหัวใจ และเก็บมันเอาไว้บนเนื้อที่เล็กๆตรงนั้นบนหน้าอกข้างซ้ายและมันก็ไม่เคยถูกลบเลือนไป เธอรู้ไหมข้อความในนั้นมันบอกว่าฉันรักเธอ หากมีวันไหนที่เธอร้องให้แล้วหาฉันไม่เจอให้เธอเดินออกมา แล้วแหงนมองไปบนท้องฟ้าจ้องไปที่ดาวดวงนั้น ดวงที่อยู่ใกล้พระจันทร์ หากมันยังส่องแสงแสดงว่าฉันยังอยู่ ฉันจะมานั่งรอทุกครั้งที่เธอคิดถึงฉัน มาแบ่งปันความทุกข์ใจ หรือถ้าเธอต้องการกำลังใจให้เอามือไปวางไว้ที่หน้าอกข้างซ้ายแล้วจำได้ไหมตรงนั้นเราเคยเขียนอะไรไว้ด้วยกัน อ่านมันสิคำนั้นมันจะเป็นกำลังใจให้เธอ ฉันรักเธอนะ MIO MINT

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2552

สิ่งที่คาดเดาไม่ได้คือความตายกับจิตใจมนุษย์

ความต้องการของคนเหมือนกับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ จะมีใครรู้บ้างว่ามันจะไปสิ้นสุดตรงไหน เส้นปลายทางของขอบฟ้าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด จะมีใครที่ไหนเคยไปถึงตรงนั้นบ้าง เหมือนกับชีวิตและจิตใจของผู้คน คนทุกคนรับรู้ว่าตัวเองมีตัวตนแต่ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าในใจของตนจะสิ้นสุดความอยากความต้องการเมื่อใด ไม่รับรู้ได้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตจะมาวันไหน และวันนั้นตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นชีวิตที่เหลืออยู่จงใช้มันอย่างมีคุณค่า อย่าเอาชีวิตไปล้อเล่นกับเวลา เพราะเวลาไม่เคยปราณีใครและก็ไม่มีใครมีอำนาจไปสั่งให้เวลาหยุดหมุนหรือย้อนหลังกลับไปได้เวลาคือตัวทำลาย มันจะออกหมายคำสั่งให้เราขึ้นเฝ้าพระอินทร์เมื่อไหร่ก็ได้ถ้ามันต้องการ

การมีสติ ความรู้ ความฉลาด และความสามารถเท่านั้นที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จและมีความสุขกับชีวิตของตัวเองอย่างแท้จริง จิตใจและความคิดสามารถสร้างและผลิตอะไรขึ้นมาก็ได้ที่เราอยากไห้มีอยากให้เป็น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการคิดถ้าคิดดีก็สร้างสรรค์แต่สิ่งที่ดี ผิดถูกก็ขึ้นอยู่กับว่าใจเขาใจเราเลือกคิดแต่สิ่งที่ถูกไม่ใช่เลือกให้คนอื่นมาเชื่ออย่างที่ใจเราคิดคนที่ปฏิเสธความคิดเราเขาไม่ได้เป็นคนผิด ทุกอย่างบนโลกนี้มีดีและไม่ดีอยู่ที่เราจะไขว่คว้า ถามใจตัวเองดูว่าอยากไขว่คว้าเอาสิ่งใด

มีใครสงสัยบ้างไหมว่าคนทุกคนมีหัวใจแต่ทำไมหัวใจของทุกคนกลับไม่เหมือนกันทั้งที่เราอยู่บนที่เดียวกันมีความหิวเหมือนกัน เกิด แก่ เจ็บ ตายเหมือน หัวใจเป็นก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง คนๆหนึ่งก็มีความคิดอย่างหนึ่ง แล้วความคิดที่มาจากใจก้อนหนึ่งทำไมถึงคิดและใช้ชีวิตต่างกัน แท้จริงแล้วจิตใจของเราทำงานอย่างไร จิตใจบงการความคิดหรือความคิดปิดบังจิตใจกันแน่ มันเป็นคำถามที่ฉันเองยังสงสัย และยังไม่เคยค้นพบกับคำตอบ สิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ทำการกระทำกับความถูกต้องมักสวนทางกันอยู่เสมอ

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

ผู้หวังดีที่มักถูกลืม

ตื่นขึ้นมาแหงนหน้ามองท้องฟ้า ยิ้มให้กับพระอาทิตย์ ยิ้มให้อากาศ ยิ้มให้สายลม ขอบคุณที่พระอาทิตย์ไม่ตื่นสาย ขอบคุณที่สายลมไม่เคยหลับไหล ขอบคุณที่ทุกอย่างไม่เคยทิ้งเราไป แล้วต่อไปก็เริ่มทำอะไรให้ตัวเองทำสิ่งดีๆไว้ให้กับโลกใบนี้ให้เหมือนกับผู้หวังดีที่อยู่รอบๆตัวเราแต่เราไม่คยมองเห็นอย่างเช่นอากาศและสายลม รักตัวเองให้เหมือนกับอากาศรักตัวเรา ให้ความหวังดีกับเพื่อนมนุษย์เหมือนอย่างพระอาทิตย์ให้ชีวิตกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ตัวอย่างดีๆมีไว้ให้เห็นมีไว้ให้บอกกับตัวเองว่าความดีที่ทำไปไม่จำเป็นต้องได้อะไรกลับคืนมา ทำความดีไม่ต้องรู้ว่าทำเพื่ออะไร ทำความดีด้วยใจที่หวังดีโดยไม่ต้องมีคำถามกับหัวใจว่าทำไมฉันต้องทำ

เราเคยมีความสงสัยบ้างไหมว่าพระอาทิตย์ อากาศสายลมเค้าเป็นญาติใครเกิดมาเพื่ออะไรและเพื่อใคร แสงกับสายลมเค้ามีความคิดไหมแล้วทำไมเค้าสร้างสิ่งมีชีวิตผลิตหลายๆสิ่งให้เกิดขึ้นกับโลกใบนี้แล้วอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เค้าต้องทำหรือว่าเค้าทำตามความฝัน แล้วความฝันเค้าจะมีจุดอิ่มตัวหรือเปล่า เค้าเหนื่อยบ้างไหมที่เค้าต้องทำหน้าที่ให้ประโยชน์มากมายให้กับใครตั้งหลายคน ทำไมเค้าไม่บ่น ทำไมเค้าไม่ต้องการของขวัญไม่มีวันเกิด ไม่ต้องการให้ใครมองเห็น ไม่ต้องการยศตำแหน่ง ไม่แย่งชิงอำนาจระหว่างกัน ทำไมสายลมไม่แย่งตำแหน่งพระอาทิตย์ และพระอาทิตย์เคยอยากเป็นสายลมบ้างหรือเปล่า เค้าเคยเกลียดกันบ้างไหม หรือว่าเค้าเคยเกลียดเราบ้างหรือเปล่า เค้าจะเบื่อบ้างไหมกับความดีที่ทำไว้ทุกวันโดยที่ไม่เคยได้อะไรกลับคืนไปบ้างเลย แล้ววันนี้เราทำดีให้กับใครมอบความรักให้กับอะไรๆในโลกใบนี้เหมือนอย่างที่พระอาทิตย์กับสายลมทำบ้างหรือยัง

หากยังไม่รู้ว่าคุณค่าของการทำดีคืออะไร ความสุขใจมีจริงไหมก็ให้มองตัวอย่างที่มีให้เห็นทุกวันสิคะแล้วจากนั้นลองทำตามดู คุณจะรู้ว่าคุณค่าและความสุขของการทำดีคืออะไรความสุขมันอยู่ที่ไหนและเกิดขึ้นอย่างไร ความสุขใจของผู้ให้มันเกิดขึ้นข้างใน ไม่ใช่จากลมปากของใครๆอย่างที่หลายคนเข้าใจและต้องการ แต่มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่คิดอยากให้ไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะอยากให้ใครๆมาเอ่ยปากชื่นชม ความภูมิใจของพระอาทิตย์ที่ยิ่งใหญ่ก็คงจะเหมือนกับความคิดของนักบุญคนรวยที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในชีวิตทั้งหลาย

ที่สุดของความคิดของนักบุญคนรวย เขาบอกว่า เหตุผลของเขาที่อยากเป็นคนรวย ไม่ใช่แค่อยากมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องการก็คือ เขาต้องการที่จะเป็นคนที่สามารถช่วยผู้อื่นได้และใครๆก็อยากให้ช่วยเพราะวางใจในตัวเขา แล้วคุณล่ะคะอยากเป็นคนรวยบ้างหรือเปล่าหรือว่าที่กำลังบอกใครต่อใครว่าตัวเองรวยแล้วตอนนนี้ได้ปฏิบัติตัวตามคุณสมบัติของคนรวยอย่างแท้จริงให้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบแล้วหรือยัง ถ้าบอกว่ายังคุณยังไม่ใช่คนรวยค่ะ

หัวใจมีไว้สะกดคำว่ารัก

มนุษย์ทุกคนเกิดขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว กับหัวใจคนละ 1 ดวง มาค้นหาความหมายของสิ่งทุกสิ่ง
ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ แต่เมื่อค้นหากลับยิ่งไม่เข้าใจ สงครามเกิดขึ้นมากมายระหว่างผู้คน คนทุกคนต้องการอะไร ทำไมหัวใจดวงเล็กๆที่เคยว่างเปล่าสดใสกลับแต่งแต้มด้วยสีมากมายบนโลกใบใหม่ที่เราได้เกิดขึ้นมา แท้จริงแล้วเราเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าหัวใจเราเกิดมาเพื่อแก่งแย่งชิงดีช่วงชิงอำนาจความเป็นหนึ่งหรือว่าเกิดมาเพื่อค้นหาอะไรแล้วตอนนี้เจอหรือยัง หากมันยังไม่สายเกินไปอยากให้ทุกคนมีสติกลับมาหาความหมายของชีวิตตัวเองใหม่ค้นให้พบสิ่งที่เป็นความจริงว่าอะไรบ้างที่เรายังไม่ซึ้งและแกล้งทำเป็นหลงลืมมันไป

เราอาจจะพยายามค้นหาความหมายของสิ่งบางสิ่งมาตลอดชีวิตแต่สิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา สิ่งที่เค้าทำให้เราดำรงอยู่ช่วยให้เรามีลมหายใจเราเคยเข้าใจสิ่งนั้นอย่างแท้จริงหรือเปล่า เค้านำเรามาเกิดเค้าให้ชิวิตก่อนที่เราจะมีความคิดก่อนที่จะมีลมหายใจ เค้าคือสิ่งที่ประกอบรูปธาตุของเราให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์
เค้าอยู่บนเนื้อที่เล็กๆในหน้าอกข้างซ้ายที่เราเรียกเค้าว่าหัวใจหากยังคิดได้ทำความเข้าใจใหม่กับหัวใจตัวเองเสียที ทีนี้รู้จักไหมก้อนเนื้อก้อนนั้นขนาดไม่ใหญ่ไปกว่ากำปั้นรองรับเรื่องราวไว้หลากหลาย บางครั้งเค้าก็เหงา บางครั้งเค้าก็เดียวดาย บางครั้งก็สุขใจ ตัวเรามีหน้าที่ใช้งานเขาแต่เราเคยรู้บ้างไหมว่าเค้าต้องการอะไรและอะไรคือความหมายแท้จริงของเค้า รู้บ้างไหมอวัยวะสิ่งนี้เค้าเกิดมามีหน้าที่ไว้ทำสิ่งใด

ใช่เค้าเกิดมาเพื่อค้นหาความหมายของคำว่ารัก เราอาจได้รู้จักกับหลายๆอย่างบนโลกใบนี้และมีหลายๆสิ่งที่เราทำให้มันเกิดขึ้นมา แต่สำหรับบางสิ่งบางอย่างมีเพียงความรักเท่านั้นที่จะทำให้มันเป็นไปได้ บางสิ่งความรักเท่านั้นที่เป็นคำตอบ ความรักเท่านั้นทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ความรักเท่านั้นที่นำพาให้เรามาอยู่รวมกันบนโลกใบนี้ วันนี้คุณมอบความรักดีๆให้กับคนบนโลกใบนี้หรือยัง จงเชื่อมั่นในความรัก.....แล้วความรักจะเป็นคำตอบสำหรับทุกๆ คำถามในหัวใจ

วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552

บนโลกกลมๆใบนี้เป็นที่ฝึกนักต่อสู้ให้เรียนรู้ความอยู่รอด

บนโลกใบนี้ที่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่คนทุกคนต้องต่อสู้ถึงจะอยู่รอด และทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับโลกกลมๆใบนี้ก็ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายดายและได้มาฟรีๆโดยที่ไม่ต้องลงทุนทำอะไรไม่ว่าจะเป็นกับสิ่งมีชีวิตหรือกับวัตถุสิ่งของหรือพูดง่ายๆว่า ไม่มีอะไรใหม่ๆที่ใช้งานได้ทันทีโดยไม่มีปัญหา

ปัญหามีอยู่ทั่วไปและมีเข้ามาหาเราเรื่อยๆ การใช้ยุทธวิธีล่าถอยหรือวิ่งหนีปัญหานั้น ไม่มีทางเทียบได้เลยกับประโยชน์ที่เราจะได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งจากบทเรียนอันทรงคุณค่าที่มาจากการได้รับชัยชนะในการต่อสู้กับมันอย่างองอาจกล้าหาญ คนที่มีความกล้าหาญไม่ใช่คนที่ไม่มีความกลัวเลย คนเราจะได้ชื่อว่าเป็นคนกล้าหาญก็ต่อเมื่อมีความกลัวแล้วสู้ต่อไปจนกว่าจะเอาชนะกับมันได้ถึงแม้ว่าในใจเราจะมีความกลัวอยู่ก็ตาม เวลาที่ใจมีปัญหาสิ่งที่จำเป็นต้องทำก็คือ เราต้องเผชิญหน้ากับความกลัวความท้อแท้อย่างกล้าหาญ ยอมรับและสู้กับมันอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา จะต้องเอาชนะกับความหวาดกลัวและความอ่อนแอในใจของตัวเองให้ได้

การสู้รบกับปัญหาก็เหมือนกับการทำสงครามกับศรัทตรูที่รู้จุดอ่อนเรามากที่สุดก็คือจิตใจของเราเอง บางครั้งถ้าจิตใจของเราไม่เข้มแข็งพอเราก็อาจจะโดนมันโค่นล้มลงง่ายๆ เพราะทุกครั้งที่เกิดปัญหาความอ่อนแอ ความกลัว ความเหงามันจะเข้ามาครอบงำจนอาจทำให้เราเกิดอาการคลุ้มคลั่ง หมดหวัง หวาดกลัวจนในที่สุดเราก็อาจจะยอมแพ้ทางใจของตัวเราเอง เคล็ดลับก็คือเวลาที่เราต้องเจอกับอะไรหนักๆให้ลองเปรียบเทียบกับตอนที่เราต้องแก้ปัญหากับถังน้ำในห้องน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มถังหากจะดูจากสภาพความเป็นจริงมันไม่ง่ายใช่ไหมที่เราจะออกแรงยกมันออกไปแต่ทำไมเราทำได้ ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าอะไรก็ตามที่มันหนักๆหากมันเกินกำลังที่เราจะยกมันออกไหว ก็แค่ปล่อยน้ำหนักของมันไว้ที่เดิม แล้วจากนั้นก็ออกแรงลากเบาๆเอาแค่ที่เราไหวและสิ่งหนักๆที่เราคิดว่ายกไม่ไหวมันก็สามารถเคลื่อนที่ได้เหมือนกัน

วันที่เราเหงาท้อแท้หมดกำลังใจไม่มีแม้ใครสักคนจะมาเข้าใจ ให้ลองมองไปที่กระจก คนในนั้นเขาไม่เคยหลอกว่าเราคือใคร แล้วเขาก็ไม่เคยจากเราไป หากใครเขาไม่เข้าใจ ก็ให้มีสักครั้งที่เราจะเข้าใจตัวของเราเอง ใช้กำลังใจในตัวเองต่อสู้กับปัญหาของตัวเองนะคะเพราะปัญหาของเรามีแต่เราเท่านั้นที่เข้าใจเพราะเราเป็นคนก่อมันให้เกิดขึ้นมา คนเราผิดหวังได้เสมอผิดหวังได้หลายครั้งแต่อย่าอยู่อย่างสิ้นหวังนะคะ

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2552

ชีวิตมีค่าอย่าปล่อยให้เวลาสูญเปล่า

หากพรุ่งนี้โลกดับสูญ หากชีวิตคุณมีแค่วินาทีนี้ ชั่วโมงนี้ วันนี้เท่านั้นฉะนั้นในขณะที่คุณกำลังมีลมหายใจอยู่ตอนนี้คุณต้องการทำอะไรมากที่สุดแล้วทำไมไม่ทำตั้งแต่ตอนนี้ ?? หากคุณกำลังแอบรักใครทำไมไม่เดินไปบอกรักเค้าดังๆ หากคุณเคยทำความผิดพลาดพลั้งแล้วยังไม่ได้กล่าวคำว่าขอโทษหรือยังไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงให้มันกลายเป็นสิ่งดีๆทำไมไม่ทำตอนนี้ หากคุณมีคนที่คุณรักทำไมไม่อยู่กับคนที่คุณรักจริงๆ ทำไมต้องปล่อยทิ้งเค้าไว้ลำพัง หากคุณคิดว่าคุณจะไปหาเค้าพรุ่งนี้คุณคิดว่าพรุ่งนี้จะมีไหมและเค้าจะอยู่รอเราไหมถ้าวันพรุ่งนี้มาถึง??

เมื่อวานนี้ พรุ่งนี้ไม่มีอยู่จริงความจริงคือสิ่งที่เป็นตอนนี้เมื่อมันผ่านไปก็จะกลายเป็นเมื่อวานนี้ พรุ่งนี้เมื่อมาถึงมันก็จะกลายเป็นวันนี้สิ่งที่เป็นจริงคือขณะนี้ที่คุณหายใจอยู่ หรือคุณอาจบอกว่าชีวิตคุณไม่มีใครทุกลมหายใจคุณอ้างว้างเหลือเกิน หัวใจมีแต่ความว่างเปล่าคราวนี้บอกมาซิว่าคุณฝันถึงใครในยามค่ำคืน สิ่งที่คุณคิดได้คือสิ่งที่คุณมีอยู่ จำสิ่งดีๆไว้ในตอนที่เรามีสุขภาพที่ดีในตอนที่ยังมีความรู้สึกแล้วทำมันให้ดีที่สุด

เวลาพรากสิ่งที่วิเศษสุดในชีวิตให้หลุดมือไป เวลาก็ช่วยนำพาสิ่งที่เลวร้ายทีสุดให้จางหายไปได้เหมือนกัน เราไม่เคยรู้ถึงคุณค่ากับสิ่งที่เรามีอยู่อย่างจริงใจจนกว่าที่เราจะเสียมันไปแล้วของสิ่งนั้นมันจะปรากฏคุณค่าให้เราเห็นอย่างแจ่มชัด และของบางสิ่งเมื่อมันเสียไปแล้วมันก็จะไม่มีวันกลับคืนมาได้อีก ฉะนั้นหากวันนี้เรามีช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับใครสักคนจงรักษามันไว้ให้นาน จำวันแรกที่ได้สบตา จำวันเวลาที่ตกลงจะรัก วันที่เรามีความสุข ทุกข์ร้องให้ วันที่เราทะเลาะแล้วกลับมาเข้าใจกันเก็บความทรงจำทุกอย่างเหล่านั้นฉายมันไว้อยู่ในใจแล้วทุกครั้งเมื่อเวลาใดที่มีปัญหาถ่ายมันออกมาแล้วตอนนั้นเราจะรู้ว่าชีวิตที่ผ่านมาเราได้ใช้มันอย่างมีค่าขนาดไหน และมันคงง่ายเกินไปใช่ไหมถ้าเราจะปล่อยทิ้งทุกอย่างไปเพียงแค่คำเพียงบางคำ

ชีวิตที่มีค่าอยู่ที่เราเห็นคุณค่าในชีวิตจงภาคภูมิใจในตัวเอง เพราะสิ่งที่รวมตัวกันเป็นตัวเองคือสิ่งที่มีค่าน่าอัศจรรย์ที่สุด รักษาสิ่งที่ดีที่สุดไว้กับตัวเองให้นานๆนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

ปัญหาสร้างผู้กล้าคนใหม่

ไม่มีใครรับรู้ล่วงหน้าว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไร ไม่มีใครกำหนดให้ชีวิตของตัวเองพบเจอแต่สิ่งทีดีๆอยู่ตลอดเวลา อนาคตคือสิ่งลวงตาเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ แต่สุดท้ายเมื่อเราตั้งใจเรียนรู้กับสิ่งที่มันมอบให้ความหมายของมันจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ทุกปัญหาบนโลกใบนี้ไม่ได้มีไว้ให้เราสิ้นหวังแต่มันเป็นศูนย์รวมของขุมพลังเป็นแหล่งที่สร้างผู้กล้าคนใหม่เป็นโรงเรียนฝึกความเข้มแข็งของจิตใจมันจะให้คำตอบว่าแท้จริงเรามีความกล้ามากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะต้องเจอกับอะไรอย่าได้หวาดกลัวเพราะมันคือบททดสอบ จงบอกกับตัวเองอย่างกล้าหาญว่าเราจะตั้งใจทำบททดสอบนี้ให้ดีที่สุด

เวลาที่เจอปัญหาอย่าพยายามรีบหาทางออกแต่ต้องตั้งคำถามกับมันว่ามันต้องการที่จะบอกอะไร ไม่ใช่ตั้งคำถามว่าทำไมมันจะต้องเกิดกับตัวฉัน หากเรามีความฝันอันยิ่งใหญ่อย่าสนใจกับเหตุผลหรือต้องการคำอธิบายแต่สิ่งที่เราต้องทำให้ได้ก็คือหาทางที่จะไปถึงให้จุดหมายอย่าไปยอมแพ้มัน จุดเปลี่ยนของชีวิตที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันก็คงเหมือนกับจุดที่เราต้องตัดสินใจเมื่อมาเจอกับทางแยกบนท้องถนนผู้คนมากมายไม่มีใครสามารถบอกกับเราได้เพราะเขาไม่ได้รู้จุดหมายในใจเรา เราต้องตั้งสติถามตัวเองว่าเราจะเลือกไปตามทางแยกใดจุดหมายที่เราตั้งไว้ทางไหนที่จะนำพาเราไปให้ถึงที่แห่งนั้น

บนเส้นทางของความฝันนั้นแม้มันยากลำบากมีอุปสรรคมากมายเส้นชัยก็ดูเหมือนจะยาวไกลถ้าเราต้องเดินอย่างเดียวดายไม่มีแม้ใครสักคนที่จะยืนอยู่เคียงข้างเรา แต่ก็ขอให้เราอย่าเพ่งท้อแท้เพราะความจริงแล้วหากมองดูให้ดีเราไม่ได้อยู่คนเดียวยังมีบางอย่างในตัวเราที่เขาช่วยให้เราดำรงอยู่นั่นคือพระเจ้าในตัวเราเขาคือจินตนาการ คราใดที่ใจสิ้นหวังจงมองลงไปให้ถึงจิตวิญญาณแล้วฟังเสียงจากข้างในนั้นว่าเขาบอกอะไร แล้วคุณจะได้ยินเสียงหนึ่งดังออกมาจากลึกๆของจิตใจว่า จงอย่ายอมแพ้เรายังไม่แย่เข้มแข็งเข้าไว้ไม่นานเราจะผ่านมันไปได้วันใหม่กำลังจะมาถึงเรา คราวนี้ได้ยินหรือเปล่าคะว่าผู้กล้าในตัวเราเขาไม่เคยทิ้งเราไป ขอเพียงเราเปิดใจเขารับรู้และพร้อมรับฟัง พลังแห่งความหวังจะช่วยประสานรอยร้าวในใจเราให้กลับมาดีดังเดิม และช่วงเวลาที่วิเศษในชีวิตที่เรารอคอยก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมถึง ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย แต่มันทำให้เรารู้จักกับความหมายที่ได้เกิดมามีชีวิตมันให้บทเรียนและพิสูจน์ศรัทธา สู้ๆๆนะคะความหวังและเส้นชัยรอเราอยู่

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

ความผิดพลาดไม่ใช่คำถามแต่มันคือบททดสอบและบทเรียน

สภาพเงื่อนไขของคนแต่ละคนถูกกำหนดให้เกิดมามีความคิดและใช้ชีวิตแตกต่างกันไป ความฝันและความคิดก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ความชอบของแต่ละคนจะให้มันเหมือนกันย่อมเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่เป็นความสนุกความท้าทายของคนๆหนึ่งมันอาจจะเป็นความน่ากลัวที่สุดของคนอีกคนหนึ่งก็เป็นได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ไม่มีอะไรในโลกนี้สมบูรณ์แบบ เพราะความไม่สมบูรณ์เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนโลกใบนี้ เราจะมีทุกอย่างไม่ได้หรือเราจะมีทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้เพราะถ้าทุกอย่างบนโลกนี้ที่เกิดมามีทุกสิ่งทุกอย่างตามแบบฉบับเดียวกันคงแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไรคนก็คงไม่ต่างอะไรจากรูปปั้น น้ำก็เป็นได้แค่น้ำ ลมก็เป็นได้แค่ลม พายุกับไอน้ำคงไม่มีให้เกิดขึ้นเพราะมันจะทำให้ไม่สมบูรณ์

ฉะนั้นหากบางครั้งมีอะไรที่เราทำพลาดแล้วมันเสียหายก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะโง่หรือว่าไม่มีความสามารถเสมอไป มันอาจจะหมายความว่าเรายังให้ความสนใจกับงานสิ่งนั้นไม่มากพอและมันก็อาจจะยังมีบางอย่างที่เรายังไม่รู้อย่างลึกซึ้งต่างหาก ชีวิตเราแม้มันจะไม่ง่าย ก็ต้องยอมรับความหมายที่ทำให้ตัวเองผิดพลาด บางครั้งต้องทำพลาดเพื่อจะได้รู้ว่าอะไรจริง ความจริงบางอย่างเรารับรู้จากความผิดพลาด สิ่งที่เราทำลงไปไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไรให้ภูมิใจไว้เสมอว่าเราได้ทำและพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว และบางครั้งจุดที่เราผิดพลาดจนทำให้เราได้รับโล่ของความพ่ายแพ้นั้นมันอาจจะเป็นจุดที่ทำให้เราได้เริ่มต้นใหม่เป็นจุดที่สอนให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดนี้มันไม่ใช่ความหมายของความสำเร็จอย่างแท้จริงที่เป็นของเรา และหากว่าเราอดทนจนผ่านพ้นมันไปได้ เราจะรู้ว่าหนทางข้างหน้ายังมีความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่สำคัญกว่ากำลังรอเราอยู่ การที่ต้องเรียนรู้กับสิ่งใหม่ทำเรื่องใหม่ๆและแก้ไขกับสิ่งที่ทำผิดไปไม่ใช่สิ่งเลวร้ายและไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของคนที่มีความตั้งใจจะประสบกับความสำเร็จ

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552

ฝันร้ายที่ไม่เคยจางหายไป

ค่ำคืนแห่งความเงียบเหงาฉันนั่งดูหมู่ดาวส่งแสงพร่างพราวอยู่บนท้องฟ้า สาดส่องมาที่ตัวฉัน หากนี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความฝันฉันขอให้ลำแสงที่สาดลงมาเป็นเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่าดวงดาวก็มองดูฉันเช่นกัน ฉันอยากให้ดาวล่วงรู้ความฝันกอปรกับคำอธิฐานในใจของฉันที่มีและช่วยบอกกับฉันทีว่ามันจะต้องเป็นจริง ฉันไม่อาจรู้ว่าดวงดาวจะรับรู้หรือเปล่า และไม่รู้ว่าดาวจะมองฉันเหมือนอย่างที่ฉันมองดาวไหม และไม่รู้ว่าดาวรู้ไหมว่าฉันเป็นใครเฝ้ารออะไรในแต่ละวัน แต่ทำไมฉันถึงมีความฝันดาวเธอจะมีฝันเหมือนอย่างฉันไหม การเดินตามความฝันและการเฝ้ารอความฝันไปวันๆดาวคิดว่ามันคือความฝันที่เพ้อเจ้อหรือเปล่า ดวงดาวจ๋าเธอจะรู้ไหมว่าเทพนิยายในใจฉันคือความฝันที่ฉันได้แต่เฝ้ารอ

หากความเงียบหมายถึงการรับฟัง ฉันอยากฝากเรื่องราวที่มีอยู่ในใจส่งผ่านความเงียบไปขอให้ดวงดาวรับรู้เอาไว้ว่าชีวิตที่ผ่านพ้นความโหดร้ายยังคงมีกลิ่นไอแห่งความตายที่ยังไม่เคยจางหายมันทำร้ายฉันเรื่อยมา แผลเป็นแห่งความเจ็บปวดหลักฐานของการฆ่าตัวตายรสชาติที่ฉันไม่เคยลืมมันได้ เหมือนใบมีดโกนที่อาบยาพิษไว้กรีดลงกลางใจฉันทุกวันและทุกวินาทีที่ฉันต้องอยู่คนเดียว

ความโกรธแค้นและความรักบันทึกเรื่องราวในใจฉัน ความเจ็บปวดอันแสนขมขื่นความรู้สึกสั่นไหวสนิมร้ายที่เกาะกินใจขอโปรดเถอะดวงดาวช่วยเอามันออกไปจากใจของฉันได้ไหม และโปรดบอกกับฉันให้มั่นใจว่าต่อไปฉันจะไม่เจอกับปีศาจร้ายที่มันคอยจ้องทำลายตามหลอกหลอนฉันมาหลายปีช่วยบอกกับมันทีว่าอย่ามาตามรังควาญฉันอีกเลย เพราะฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆนี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะบอกออกไปอยากให้ใครๆได้เข้าใจและรับรู้ ในขณะที่นั่งจ้องมองดวงดาว ได้โปรดเถิดดวงดาวขอจงรับฟังและช่วยส่งพลังให้ฉันที

วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2552

ความจริงหรือสิ่งลวงตากันแน่

มีคนส่วนมากชอบพูดว่าความดีคือสิ่งที่จะคงอยู่ ความดีจะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น แต่ในความเป็นจริงคุณคิดอย่างนั้นไหม ความดีทำได้จริงหรือ มีคนยอมรับหรือเปล่า กับความคิดและการกระทำที่ว่าความดีเชยไม่เข้ากับยุคสมัยใหม่ไม่ได้ใจสังคม อย่างไหนที่สังคมต้องการและทำง่ายมากกว่ากันและคนในสังคมส่วนมากยอมรับแล้วทำอย่างไหนกันแน่นี่คือสิ่งที่ฉันไม่เคยจะเข้าใจในสังคมยุคใหม่ยุคที่ใครต่อใครสร้างแต่ภาพมายาขึ้นมาหลอกตาคนอื่น คนที่จริงใจหลายคนต้องกลายเป็นคนโง่
ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นไปเท่าไหร่คนในสังคมยิ่งกิเลสหนา ความมายาเริ่มเข้าครองเมืองคนไหนที่สร้างภาพเก่งเท่าไหร่ยิ่งถูกยอมรับ คนเก่งคนดีไม่มีใครสนใจคนชั่วจัญไรทำอะไรนิดหน่อยถูกประโคมข่าวต่อเนื่องจนดูเหมือนจะกลายเป็นคนดัง คุณธรรมหายากจากสังคม ทุกอย่างจะมีค่ามากน้อยแค่ไหนวัดจากความดังความจริงวัดจากภาพที่มองเห็นซึ่งนั่นมันอาจจะเป็นเพียงแค่มายา นี่แหละสังคมยุคใหม่ยุคที่ใครๆก็หลงใหลได้ปลื้มกับความก้าวหน้า

ความก้าวหน้าทำให้ชีวิตสะดวกสบายทำอะไรต่ออะไรได้ง่ายดายกว่าแต่ก่อนเก่า แล้วเคยมีใครสงสัยบ้างไหมว่าความง่ายและสะดวกสบายที่ร่างกายภายนอกเรารับรู้และสัมผัส กับความรู้สึกแท้จริงของจิตใจที่เราต้องการมันใช่อย่างเดียวกันหรือเปล่า ถ้าความสะดวกสบายและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีวัดประสิทธิภาพในการดำรงอยู่ของคนได้ทำให้คนสุขใจได้จริง แล้วทำไมจำนวนประชากรของประเทศยี่ปุ่นถึงได้มีสถิติการฆ่าตัวตายที่สูงที่สุดในโลก และประเทศที่เทคโนโลยี่ก้าวหน้าเป็นประเทศที่ผู้คนจิตใจดีมีเสรีภาพสูงจริงหรือ??

แล้วทำไมประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่รักประชาธิปไตยเคารพและรักษาสิทธิของมนุษยชนถึงได้ไปถล่มประเทศอิรักองค์การสหประชาชาติไม่เห็นจะทำอะไรได้ ความจริงความถูกต้องความเหมาะสมวัดจากอะไร สิ่งที่มีค่าที่สุดวัดจากสิ่งที่ใจเราอยากได้ที่สุด หรือวัดจากสิ่งที่ราคาแพงที่สุด และเมื่อเวลาและสถานการณ์เปลี่ยนไปสิ่งที่มีค่าที่สุดคือสิ่งที่ใจเราอยากได้ที่สุดอยู่อีกไหม นี่คือคำถามที่มนุษย์ทุกคนต้องตั้งสติค้นหาคำตอบอย่าให้สิ่งแวดล้อมและกิเลสตัณหามาครอบงำจิตใจจนหลงงมงายสิ่งที่หรูหราที่สุดทันสมัยที่สุดล้ำหน้าที่สุดไม่ได้หมายความว่าจะมีประโยชน์ที่สุดเสมอไป

ทุกอย่างอยู่ที่ใจ

เป้าหมายและชัยชนะบางอย่างเราจะไปถึงมันได้ก็เพราะใจเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ ทุกครั้งที่เกิดความรู้สึกหวั่นไหวไม่มั่นคง ลองตั้งสติถามใจของตัวเองดู แล้วฟังคำตอบจากข้างในนั้นว่ามันยังไหวอยู่อีกหรือเปล่า เรายังมีความฝันอยู่อีกไหม คนเก่งที่เราเคยบอกกับตัวเองยังเก่งอยู่จริงหรือ ความหวังและศรัทธาในใจยังมั่นคงหรือจางหายไปบ้างแล้ว ความฝันแม้บางครั้งมันจะขาดตอนไปบ้างตามสถานการณ์ที่เราไม่อาจควบคุมได้แต่อย่าปล่อยให้มันจางหายไป ขอให้บอกกับตัวเองไว้เสมอว่าสิ่งที่มันสั่นคลอนพลังใจไม่ใช่มาจากความฝันแต่มันมาจากความท้อแท้ในใจ เราทุกคนล้าได้แต่อย่าล้ม เป็นกำลังใจให้กันในวันที่สถานการณ์เลวร้ายขอให้ทุกคนมีกำลังใจสู้ต่อไป สู้สู้ นะคะ

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

คนเราไม่ได้ล้มเหลว

ไม่มีสิ่งใดในโลกที่สำคัญไปกว่าความเพียรพยายาม
พรสวรรค์ไม่สำคัญ-ไม่มีสิ่งใดพบเห็นได้บ่อยเท่าคนมีพรสวรรค์แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ความร่ำรวยไม่สำคัญ-คนที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด แต่ตายแบบยาจกมีอยู่กลาดเกลื่อน
ความอัจฉริยะไม่สำคัญ-อัจฉริยะบุคคลที่ถูกลืมมีอยู่ถมเถไป
การศึกษาไม่สำคัญ-โลกนี้เต็มไปด้วยคนถังแตกที่จบปริญญาตรี
โชคไม่สำคัญ-กษัตริย์หลายพระองค์ที่ได้สตรีผู้เลอโฉมมาครอบครองต้องสูญสิ้นอำนาจเพราะความแพศยาของพวกเธอเหล่านั้น

ความเพียรพยายามและความตั้งใจแน่วแน่เท่านั้นที่มีอำนาจเหนืออื่นใด
อย่าหยุดยั้งจงเดินหน้าต่อไปนะคะเป็นกำลังใจให้กันในวันที่สถาณการณ์แย่ๆอย่างทุกวันนี้อย่างน้อยๆก็ขอให้รู้ไว้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับเราเพียงแต่บางครั้งเราไม่รับรู้เท่านั้นเอง

วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552

ความหมายของเพื่อนแท้

"เพื่อนที่ดีที่สุด"

...คือ...

  คนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกัน

...

โดยไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ
...

แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด
...

วันที่คุณเข้มแข็งและแข็งแรงพออย่าลืมเป็นผู้ฟังที่ดีให้กับคนที่มีปัญหาด้วย
...

 เอาไหล่ให้เค้าพิงเอามือให้เค้าจับ100 พันคำพูดดีๆ

...ไม่มีค่าเท่ากับ...
...

 1 สัมผัสที่มีค่าคือความอบอุ่นใจหรอกนะ

"วันนี้ก่อนที่คุณจะทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ"

อย่าลืมสำรวจตัวเองก่อนว่า

 "ในช่วงเวลาที่ผ่านมา คุณทำใครหล่นหายไปจากชีวิตหรือเปล่า"
....

... อย่าเอาเพื่อนใหม่มาแลกเพื่อนเก่าถ้าอยากรัษามิตรภาพของความเป็นเพื่อนให้ยาวนาน...




                                                                    ...วัคซีน...