วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อธิฐานดาวตก

.......นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งแล้วซินะที่เราได้ชื่นชมกับปรากฏการณ์ฝนดาวตก ดิฉันคิดว่าคำอธิฐานหลักๆคนไทยหลายๆล้านคนก็คงจะอธิฐานในสิ่งเดียวกับดิฉันคืออยากเห็นเมืองไทยสงบสุข และขอให้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงหายจากพระอาการประชวรไวๆ....แต่รู้ไหมคะว่าดิฉันก็ยังมีอีกหนึ่งคำอธิฐานอีกเช่นกันที่ได้อธิฐานไว้ให้กับสิ่งยิ่งใหญ่สิ่งนั้น ....เอ!!แล้วเค้าจะรู้มั๊ยนะ??.........
...
ลำแสงสีทองส่องสกาว พร่างพราวสวยจับใจ
เธอหล่นมาจากฟากฟ้าไกลทำให้โลกดูสดใจขึ้นทันตา
ดวงดาวเอยเธอเต็มใจไหมที่ต้องตกลงมา
เธอจะรู้สึกเศร้าบ้างไหมที่ต้องจากฟากฟ้า
และเธอจะรับรู้ไหมว่า ที่แห่งนี้มีคนตั้งตารอคอยเธอด้วยความหวัง
และสุขใจทุกครั้งที่ได้มองเห็นเธอ
...
ลำแสงของเธอที่ทอดลงมาแค่เพียงเศษเสี้ยวของเวลา
แต่มันมีค่าทางใจกับคนมากมาย
ขอให้เธอจงภูมิใจในหน้าที่ของดวงดาว
วันนี้เธอเสียสระตัวเองมาทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่
ตกลงมาเพื่อให้ใครต่อใครได้ตั้งใจอธิษฐานขอพร
...
หมื่นล้านคำที่ผู้คนพร่ำภาวนา
แสนกว่าความหมายที่เธอต้องรองรับเอาไว้
ฉันรู้ว่าเธอต้องเหน็ดเหนื่อยมากมาย
แต่เธอคงยังไม่สับสนใช่ไหม
ถ้าฉันจะมีคำอธิษฐานอีกสักหนึ่งความหมาย
อยากให้เธอรับเอาไว้ด้วยเช่นกัน
...
ฉันขอให้คุณความดีทั้งหลาย
ที่เธอทำให้คนมากมายได้มีความสุขในวันนี้ จงมีพลังส่งกลับไป
ขอให้เธอมีชีวิตใหม่ที่สดใส
จากที่เคยเป็นแค่ละอองดาวให้กลายเป็นดาวประจำเมืองที่ยิ่งใหญ่
และติดอยู่บนนั้นทุกครั้งที่ใครๆได้แหงนมองขึ้นไป
สุดท้ายขอให้เธอจงมีความสุขใจอยู่ตลอดเวลา
เธอคือสิ่งที่มีค่าฉันศรัทธานะเธอดาวตก
...
...ทุกครั้งที่เรามองเห็นแสงแสดงว่าเรากำลังจะมีความหวัง
และจงเชื่อเถอะนะคะว่าสิ่งที่คุณหวังกำลังจะเป็นจริง...
*เจ้าหญิงวัคซีน*

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งานวิจัยพฤติกรรมระดับโมเลกุล

การค้นคว้า เพื่อทําความเข้าใจว่า เหตุใด มนุษย์เราจึง มีความอยากได้ส่วนบุคคลแฝงอยู่ในจิตสำนึกจนเกินความพอดี . การค้นพบครั้งล่าสุดของ ลอร์ดวัคซีน ในมหาวิทยาลัยความฝันแห่งกรุงเพ้อเจ้อนั้นก็ยังเป็นเพียงผลงานวิจัยคล่าวๆทางวิทยาศาสตร์การคาดเดาชิ้นหนึ่ง ที่พยายามจะชี้ให้เห็นว่า ชีววิทยาหรือพันธุศาสตร์ กับความเป็นคนงกอยากได้อยากมีนั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างลับๆ


หลังจากการเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมของบุคคลกลุ่มหนึ่งอย่างสอดรู้สอดเห็นก็ได้พบว่าพฤติกรรมของผู้คนเหล่านี้ เมื่อเห็นอะไรที่ดูสวยงามตระการตาเขาจะมีความรู้สึกเหมือนถูกอำนาจเวทมนต์บางอย่างเข้ามาสิงสถิตจนทำให้เกิดอากัปกิริยาที่อยู่เหนือปริมลลการควบคุมตนเองให้เป็นปกติได้ โดยทางวิทยาศาสตร์การคาดเดาจะเรียกอาการเหล่านี้ว่าเป็นการลืมตัวชั่วขณะจนไปถึงขั้นไม่รู้จักประมาณตนจะส่งผลทำให้เกิดอาการที่คิดไปเองว่าตนเป็นผู้เป็นร่ำรวยต้องเอาของเหล่านั้นมาครอบครองให้ได้หรือไม่ก็ต้องทำสัญญาแสดงตนเป็นเจ้าของโดยฉับพลัน ประหนึ่งว่าสิ่งเหล่านั้นเคยเป็นของตนมาตั้งแต่ชาติปางก่อนที่ยังตามมาหลอกหลอนให้เห็นในมโนสำนึกถึงในชาตินี้.


ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา(ไม่รู้เหมือนกันว่ากี่ปี) แม้ว่างานวิจัยในห้องปฏิบัติการก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลนั้นจะถือว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ก็ยังมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า มีปัจจัยทางสังคมวิทยาบางอย่าง ที่เป็นตัวกําหนดพฤติกรรมของผู้คนเหล่านี้ แม้ว่าจะยังไม่อาจสรุปได้ว่า ปัจจัยดังกล่าวนั้นคืออะไรมีต้นสายปลายเหตุเริ่มมาจากสิ่งไหนแน่เพราะยังเป็นเรื่องถกเถียงกันจนบางครั้งก็ถึงขั้นไม่ลงรอยตีหัวกันเองมาก็นักต่อนักแล้ว เพราะพฤติกรรมดังกล่าวมีที่มาจากหลายกระแสมาก ไม่ว่าจะเป็นกระแสจากสังคมไฮโซ สื่อ อินเตอร์เน็ท และ/หรือจากการที่ได้เกิดมาเป็นผู้โชคดีผุดออกมามีชีวิตอยู่ในยุคที่ผู้คนบ้าคลั่งการทำตัวให้ทันกระแสวิ่งไล่กวดคำว่าทันสมัยซึ่งก็ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีการถกเถียงกันในแต่ละครั้งจนกินเวลาไปยาวนาน(และแล้วก็ยังไม่เกิดผลอันใด)


. อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มก็ยังมีความเห็นที่ไม่ค่อยจะตรงกันนัก ไม่ว่าจะใน สังคมวิทยาศาสตร์คาดเดาเอง หรือ กระทั่งสังคมชาวบริโภคนิยมเองก็ดี ว่าจะนําเอาองความรู้ที่ได้จากการสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านดังกล่าวนี้ ไปใช้ประโยชน์อย่างไรและผลกระทบที่อาจจะตามมา มีอะไรบ้าง และใคร จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ถ้าหากมีสังคมคนรวยที่แท้จริงเข้ามาตั้งคำถามย้อนกลับว่า “เมิงจะทํางานวิจัยดังกล่าวขึ้นมาทําไมกูมีเงินพอใจหาความสุขให้ตนเองเมิงจะมายุ่งอะไรกับกูหรือว่าอิจฉา” (ห๊า!!เจ็บตับโดนสวนกลับถูกความรู้สึกที่แท้จริง..เหวอแดกเล็กน้อย)


ยังไม่เข็ดทำมึนต่อ..งานวิจัยของลอร์ดวัคซีนยังค้นพบอีกว่าขนาดของความอยากได้ของแต่ละบุคคลนั้นมีความแตกต่างกัน เปรียบเทียบโดยใช้สูตร 1vs1live=ความอยากไม่มีสิ้นสุดขึ้นอยู่กับว่าไปพบเจอกับสิ่งใดในขณะนั้น พร้อมด้วย ผู้ร่วมงานที่มหาวิทยาลัยของเธอ และ นักวิจัยแห่ง ศูนย์วิทยาศาสตร์ขาดสติในกรุงที่มีคนอยู่น้อย ได้ทำการพิเคราะห์ สมองของ คนที่เป็นคนจน 100 คน และ คนรวยมาแต่กำเกิด200คน *อนึ่งที่คนรวยมากกว่าเพื่อจะพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าจริงแล้วคนรวยไม่งกจริงหรอ* และก็ได้พบว่า คอคอดของสมองที่เป็นรอยต่อเข้าไปในบ่อของความอยากได้ในสมองของคนที่เป็นคนจน มีความกว้างและหนากว่า คนรวย ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ แต่กระนั้น สมองคนที่เป็นคนรวยบางคน ก็มี คอคอดที่หนาและลึกกว่า คนที่เป็นคนจนกว่าหลายเท่านัก(โอ้!มายก็อดคนรวยก็งกขั้นเทพ)


สําหรับแนวความคิดที่ว่า ปัจจัยทางด้านของการเป็นคนมีฐานะ จะไม่ได้มีบทบาทในการกําหนดพฤติกรรมความงกนั้น ลอร์ดวัคซีนได้กล่าวในการประชุมประจําปี ของสมาคมประสานจิตวิทยา (Society for hart) ที่หาดไม่เคยมี รัฐฮานาก้า ว่า "แน่นอน เราไม่ได้หมายความว่า สิ่งแวดล้อมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง [ต่อการกําหนดพฤติกรรม] แต่เราหมายความว่า สิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถอธิบาย เรื่องราวทั้งหมดได้" ( แปลไทยเป็นไทย แบบเข้าใจง่ายๆ ได้ว่า : สิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นของคนจนหรือคนรวยมีผลต่อพวกเขาแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ) *ทำเสียงสูงใส่จริตจกร้านแต่พองาม*

....อย่างไรก็ตาม เราก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าขนาดความลึกบางของสมองที่แตกต่างกันนั้นจะเข้ามาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้ชาติล่มจม หรือว่า เป็นผลลัพธ์ที่มาจากสิ่งอื่นที่บงการอยู่นอกประเทศกันแน่ "มันก็ยังเป็นปัญหาที่ต้องหาคำตอบกันต่อไปส่วนคำตอบที่จะได้นั้นคงต้องคาดเดากันเอาเองธรรมชาติไม่สามารถเปิดเผยความจริงที่แน่นอนได้...ทุกอย่างล้วนเป็นปรัชญา"....

บทเรียนที่สอนให้รู้ว่าอย่าโง่ตามกระแส

จากบทสัมภาษณ์พ่อเคอิโงะ... คนไทยอ่านแล้ว...อย่าเจ็บใจนะนายคัตซุมิ ซาโต้ ถือได้ว่าเป็นชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่โชคดีผู้หนึ่ง ที่หลังจากได้มาพบลูกชายที่เมืองไทยแล้ว เมื่อเดินทางกลับถึงญี่ปุ่น ได้มีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและวารสารมาขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เดินทางมาประเทศไทยหลังจากที่ปฏิเสธการเดินทางมาก่อนหน้านี้นี่คือบทสัมภาษณ์ที่นายคัตซุมิ ซาโต้ ที่ปัจจุบันยังไม่ได้มีงานอะไรที่มีรายได้เป็นหลักแหล่งแน่นอนหรือมากมาย แต่โชคดีที่มีลูกในเมืองไทย...
“ตอนแรกผมไม่ได้คิดมาเมืองไทยเพราะผมเองไม่ได้มีรายได้อะไรมากมาย และที่สำคัญ ผมเข้าใจผิดคิดว่าที่เมืองไทยคงใช้กฎหมายเหมือนที่ญี่ปุ่นที่ชายคนใดทำให้หญิงสาวท้องจนคลอดลูกแล้วหนีไป เมื่อพบตัวชายผู้นั้น ชายผู้นั้นต้องรับผิดชอบทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และความเสียหายที่ทางหญิงสาวสามารถเรียกร้อง พร้อมทั้งอาจต้องผิดกฎหมายด้วย แต่ปรากฏว่า จากการติดตามแกมบังคับให้ผมต้องเดินทางไปประเทศไทย ทำให้ผมเพิ่งทราบว่า ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดไปเอง เพราะก้าวแรกที่ผมถึงประเทศไทย คนไทยให้การต้อนรับผมราวกับคนสำคัญของประเทศคนหนึ่ง ทั้งหนังสือพิมพ์ ทีวี และสื่อต่าง ๆ พากันมาทำข่าว ผมได้พักโรงแรม 5 ดาวอย่างหรู อาหารการกินอย่างดี มีคนต้อนรับตลอดหลายวันที่ผ่านมา และที่สำคัญ ยังได้เงินที่มีคนนำมามอบให้อีกด้วย

(ทั้ง ๆที่ทิ้งลูกเมียไปอย่างไม่รับผิดชอบและไม่ได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยอะไรเลยตลอดมา การพบลูกในครั้งนี้) ดังนั้น ผมจึงคิดว่าจะเดินทางไปประเทศไทยอีกในระยะอันใกล้นี้ และถ้าเป็นไปได้ก็อาจหาทางเอาลูกชายมาด้วย เผื่อว่าคนไทยหรือทางรัฐ ฯ จะได้ให้เงินสนับสนุนผมและลูกต่อไป”

เป็นไง .... กับญี่ปุ่นไร้ความรับผิดชอบ ไม่มีคุณประโยชน์อะไรกับประเทศไทยเราเลย แถมตอนแรกไม่คิดมาเพราะอาจมีภาระ แต่พอมาแล้ว ได้กินดี อยู่ฟรี แถมมีเงินติดมือ เป็นใคร (ที่ขี้เกียจและไร้ความรับผิดชอบ) ก็คงชอบแน่นอนเป็นไงล่ะ .... คนไทย ที่บ้าเห่อ บ้ากระแส ไร้ความคิด สุดท้ายก็โดนชายญี่ปุ่นที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อประเทศไทยเราเลยตบหน้าฉาดใหญ่ เพียงอาศัยความอยากรู้จักพ่อของเด็กคนหนึ่งเท่านั้น …เท่านั้นจริง ๆ-----------------------------------------------------------------------------------------------รับมาก็ส่งไป และอยากให้ช่วยส่งต่อ ๆ ไปอีก เพื่อให้คนไทยเลิกโง่ เลิกเห่ออะไรบ้าๆบอๆ ได้แล้วคนไทยอ่านแล้ว.... อย่าเจ็บใจนะ

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ไดอารี่วันที่9(เงาสะท้อนอวยพรวันเกิด)

สวัสดี izaชีวิตภาคสมบูรณ์ของฉัน วันนี้นาฬิกาตีเวลาตรงหัวใจบอกว่าแก่ขึ้นไปอีกปีแล้วซิ..เธอจะเริ่มมองเห็นคุณค่าของชีวิตเธอก็เมื่อตอนที่ชีวิตเธอได้เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆนี่แหละนะ
...
วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปีแล้วนะที่ฉันได้เห็นเธอต้องฉลองวันเกิดตัวเองอยู่คนเดียวเธอคงชินแล้วใช่ไหม แม่เธอก็คงลืมวันเกิดเธอเหมือนอย่างเคยซินะ แต่เธอไม่ต้องเศร้าหรอกนี่ไงฉันออกมาแล้วออกมาทำหน้าที่สะท้อนความรู้สึกเหงาให้เธอเหมือนอย่างที่ฉันเคยทำอยู่เสมอไง
วันนี้เป็นวันพิเศษของเธอฉันขอให้เธอมีชีวิตที่เข้มแข็งฉันก็จะเป็นเงาสะท้อนที่เข้มแข็งขึ้นเพื่อเธอเช่นกันเวลาในวันต่อๆไปฉันขอให้เธอจงได้พบกับบางสิ่งบางอย่างที่จะนำความสดใสมาให้เธอและขอให้เธอมีความสุขกับการใช้ชีวิตในแบบฉบับของเธอตลอดไปขอให้เธอจงค้นพบสิ่งใหม่ๆในหัวใจเธอทุกครั้งที่เธอต้องการนะ


จงสู้ต่อไปอย่ากลัวอุปสรรคใดๆเก็บความเจ็บปวดไว้ในส่วนลึกของหัวใจฉันจะปกป้องเธอไว้ด้วยความกล้าหาญของฉัน


ฝันต่อไปจนกว่าจะพบทางทุกอย่างอยู่ที่ใจอยู่ที่เธอเท่านั้น ฉันเชื่อว่ามันต้องมีสักวันถึงฉันจะไม่รู้ว่ามันเป็นวันไหนก็ตาม...แต่ตราบเท่าที่พรุ่งนี้เธอยังคงตื่นขึ้นมาแล้วได้พบกับวันใหม่สิ่งใหม่ๆมันก็จะต้องเข้ามาหาเธอได้ในสักวัน เธอเชื่ออย่างฉันไหมแต่ฉันหวังไว้ว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น ฉันขอให้เธอจงมั่นใจ เพราะว่าฉันมั่นในเธอ

ฉันดีใจที่มีเธอเป็นตัวเธอในภาคสมบูรณ์ของฉันและฉันก็ภูมิใจที่ฉันได้เป็นเงาสะท้อนสิ่งต่างๆให้เธอถึงแม้ว่าบางครั้งฉันจะต้องใช้ความพยายามอย่างแรงกล้าเพื่อสู้กับพลังซุปเปอร์ฐิติในตัวเธอแต่ทุกครั้งเราก็ต่างรอมชอมกันให้ออกมาได้ด้วยดีเสมอถึงเธอจะควบคุมยากแต่ฉันก็เคารพในตัวเธอนะ


ฉันรักเธอนะ iza
...

...

จาก...จิตไร้สำนึกที่ค่อนข้างบ้าของเธอ

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ว่าด้วยสัจธรรมเรียงร้อยคำจากปรัชญา

คำโกหกมีอยู่เสมอมันซ่อนอยู่ในคำพูดที่น่านับถือ คำสัญญามีอยู่เสมอมันมาพร้อมกับการให้ความหวัง
คุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่ลงมือทำ เพียงลมปากไม่สามารถทำให้อะไรสำเร็จได้
เมื่อถูกสิ่งหลอกลวงและคำโกหกทำร้าย จงยอมรับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ปุถุชนคนเดินดินต้องเจอ
จิตใจที่เสื่อมจนไม่มีความรู้สึกในทุกๆครั้งที่ตนเองทำความผิดไม่เรียกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์
ในความลึก ในความกลัว ในความมั่นใจ ในความหวัง ยังมีความกล้าซ่อนอยู่เพียงแค่รอเวลาที่เราจะเรียกเขาออกมา
เพื่อนแท้คือคนที่ยืนอยู่ในวันที่ทุกๆคนต่างก็หายไปและนั่นก็ไม่ใช่อะไรแท้จริงคือความเหงานั่นเอง
เมื่อเราได้ก้าวเข้าสู่ดินแดนที่เป็นนิรันดร์เราจะไม่มีวันได้ก้าวกลับมาบนโลกนี้อีก
ชีวิตคือการทำให้สมบูรณ์แต่การได้เกิดมามีชีวิตคือการเริ่มต้นแห่งการสูญเสียตั้งแต่วันแรกจนวันตาย
อนาคตเก็บงำความลับไว้มากมายและที่ยิ่งร้ายคือเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าเพราะเขาไม่เคยมีจดหมายเตือน
ทุกสิ่งทุกอย่างต่างมีการเปลี่ยนแปลงและก็ต่างดำเนินไปแต่ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนท้องฟ้าให้ไม่กลายเป็นสีฟ้า
เมื่อจิตใจคุณผ่านพ้นจากความรู้สึกเจ็บปวด สิ้นหวัง ทรมานไม่นานคุณจะได้จิตใจใหม่ที่จะเข้ากันได้กับความเศร้าไปตลอดกาล
บินไปเถอะบินไปถ้าคุณยังรู้สึกได้ว่าปีกของคุณยังมีประสิทธิภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
หากไม่มีแสงให้เดินตามแมลง หากไม่มีหวังให้เดินตามเสียงของหัวใจ
หากเราพร้อมที่จะอยู่เราต้องพร้อมที่จะทนเพราะคำนินทาและเสียงบ่นมีปะปนอยู่กับคนทุกพื้นที
ทุกครั้งที่ผิดหวังจากความฝันให้เข้าใจว่านั่นก็แค่ฝันแต่สิ่งที่ทำเราเจ็บต่างหากที่เป็นความจริง
อะไรที่เราพูดไม่ได้ให้เอาเก็บใส่กระเป๋าไว้แต่อย่าลืมหยิบมันทิ้งออกไปหรือไม่ก็ให้ลืมลงไปในถังซักผ้า
อนาคตถ้ามันไม่คดเราคงออกค้นหามันได้ไม่ยากสักเท่าไหร่แต่ก็คงไม่ยากเกินไปถ้าเรามุ่งมั่น
ถ้าไม่มีความเคลื่อนไหวก็ไม่มีการเริ่มต้น แต่ถ้าเริ่มต้นด้วยความกังวลควรเอากลับไปคิดดูใหม่
เมื่อโอกาสผ่านเข้ามาอย่าเพ่งรีบคว้าแต่ควรพิจารณาว่ามันใช่โอกาสจริงๆหรือแค่เอาสิ่งยั่วยวนใจมาหลอกใช้เรา
เมื่อคุณปล่อยให้โอกาสและความฝันหลุดลอยไปคุณก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจเพราะคุณฝันใหม่ได้ทุกวัน
นิยามที่แท้จริงของคำว่ารักก็คือมากมายคุณจะลึกซึ้งกับคำนี้ได้ก็ต่อเมื่อคุณทำความเข้าใจโลกนี้ได้แล้วทุกอย่าง
เมื่อคุณปรารถนาจะมีอิสระบินไปไกลให้ได้ดั่งนกขณะนั้นในใจคุณก็ยังคงปฏิเสธที่จะถูกยิงให้ตกลงมาตาย
เส้นทางในปัจจุบันคือสิ่งที่สะท้อนมาจากอดีต อนาคตคือสิ่งที่เราฝันความหวังคือแรงผลักดันให้เราออกตามหา
ทุกครั้งที่เราออกเดินทางตามหาอนาคต อนาคตก็ทำอย่างนั้นเวลาและอนาคตคือความเป็นนิรันดร์ซึ่งความฝันก็ไม่มีวันสิ้นสุด

....สองฝ่ายจะเป็นหนึ่งเดียวได้ถ้าตราบใดเราคนไทยจะไม่ปล่อยมือจากกันเราจะเดินข้ามผ่านอุปสรรคไปให้เจอแสงของสายรุ้งเส้นนั้นขอเพียงเราร่วมใจกัน เติมพลังแห่งความรักแล้วเดินไปพร้อมกัน .....พลังแห่งความรักจะนำพาเราไปให้พบว่าที่สุดปลายสายรุ้งตรงขอบฟ้าเส้นนั้นจะมีรางวัลรออยู่...

สงวนลิขสิทธ์โดย เจ้าหญิงวัคซีน ผู้นำลัทธิความฝัน...หุหุหุ

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คนพิเศษที่หมดความสำคัญ

คุณเคยทำ "คนบางคน" ที่คุณเคยให้เค้าเป็นคนสำคัญหล่นหายไปจากหัวใจ
โดยที่คุณไม่เคยบอกในเหตุผลของการลืมกันไปให้เค้าได้รู้ตัวเลยบ้างไหม?
...

ใครบางคนที่เป็นเหตุผลของการอยากมีชีวิตอยู่และสู้ต่อไปแม้ว่าโลกข้างหน้านั้นจะโหดร้ายเพียงไรเขาก็ไม่เคยกลัว
...

ใครบางคนที่ทำให้คุณไม่ต้องสับสนไม่เหงาไม่เศร้าไม่เดียวดายแม้ว่าคุณจะพึ่งผ่านเรื่องที่เลวร้ายมาไม่นาน
...

ใครบางคนที่ทำให้คุณรู้ว่าวันข้างหน้าเราจะอยู่อย่างมีคุณค่าเราจะร่วมกันสร้างฝันแม้ว่าคุณจะหมดหวังและเหนื่อยล้าจากสิ่งต่างๆมามากมาย
...

ใครบางคนที่ไม่เคยมองว่าคุณคือคนผิดแม้ว่าสิ่งที่คุณทำนั้นคนทั้งโลกจะมองว่าผิดศีลธรรม

ใครบางคนที่ไม่เคยซ้ำเติมและเข้าไปเกี่ยวข้องในสิ่งที่คุณไม่ต้องการให้รับรู้

ใครบางคนที่อยู่รับประสบการณ์ใหม่ๆกับคุณทุกครั้งขอเพียงสิ่งนั้นเป็นเส้นทางที่จะสร้างฝันให้คุณ
...

ใครบางคนที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าวันข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นอย่างไรคุณก็จะเป็นคนพิเศษเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งคุณไป
...

และใครบางคนคนนั้นที่ถอยห่างออกมาเมื่อรู้ว่าคุณกำลังเจอเส้นทางลัดที่สามารถนำคุณไปถึงฝั่งฝันได้อย่างง่ายดาย
...

ใครบางคนคนนั้นเขาไม่สามารถเรียกร้องให้เธอกลับมาสร้างฝันที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันอีกต่อไปทำได้แค่ยืนมองเธอไปได้ดีกับเส้นทางที่เธอได้ฝันไว้
...

...

ถึงเวลาจะผ่านไปถึงสิ่งใหม่ๆจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงความเป็นเราแต่ถึงอย่างไรไม่ว่านานสักเพียงไหน
วันนี้ เธอก็ยังเป็น"คนพิเศษ" สำหรับฉันอยู่ต่อไป
...

...

คำถามมีอยู่ว่า...
...

ที่ผ่านมาฉันทำผิดอะไร
...
และฉันยังเป็น "คนพิเศษ" สำหรับเธออยู่อีกไหม?

...

หรือแค่ว่าฉันไม่สามารถนำเธอไปสู่ฝั่งฝันได้อย่างทันใจฉันจึงหมดความสำคัญ?
...

...จากคน ที่เคยเป็นเพื่อนของเธอ...

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ข้อดีของการไม่มีแฟน

1.มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากดูหนัง คุยโทรศัพท์ งอน ง้อ
2.มีเวลาอยู่กับเพื่อนมากขึ้น
3.กลับบ้านดึกก็ได้ไม่ต้องโทรรายงานใคร
4.ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ไม่สุขมากแต่ก็ไม่ทุกข์แล้วกัน
5.ประหยัดค่าใช้จ่าย แบบว่าไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ไม่ต้องคอยซื้อของขวัญอะไรให้ใคร
6.ร้องเพลงคนไม่มีแฟนของพี่เบิร์ดได้อย่างสะใจ มันส์ในอามรมณ์อย่างสุดๆ
7.ไม่ต้องคอยเอาใจคนอื่น
8.ไม่ต้องพบเพื่อนของแฟนที่เราไม่อยากรู้จัก
9.ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาแย่งแฟนเรา
10.มีคนคอยเป็นห่วงเยอะ(และคอยถามว่าทำไมไม่มีแฟน)
11.ไม่ต้องคอยหึงหวง ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นอีกเยอะ
12.ไม่ต้องห่วงว่าเค้าจะสบายดีรึเปล่า
13.มีเวลาให้ตัวเองเต็มที่
14.ไม่ต้องฟังคำว่า"อนาคตของเราและรักแท้"
15.ไม่ต้องอกหัก อันนี้สำคัญมาก
16.ไม่ต้องกังวลว่าวันนี้จะใส่ชุดอะไรดีถึงจะถูกใจเขา
17.ไปหาเพื่อนน่ะแต่งตัวแบบไหนก้อได้
18.ไม่ต้องคอยเช็ค sms เผื่อว่าเขาส่งมาแล้วยังไม่ได้ส่งกลับ (เฮ้อออ....เปลืองอ่ะ)
19.อยากหิ้ว อยากจิก ใครก็ได้ไม่มีคนคอยตามประกบ
20.พ่อแม่จะรักเป็นพิเศษเพราะอยู่ติดบ้าน
21.ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเอง เพื่อเอาใจเขา
22.ไม่ต้องรอคำสัญญาที่มันไม่เป็นความจริง
23.ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องเปลืองตัวไม่ต้องกลัวเอดส์
24.มีทางเลือกให้กับชีวิตเพิ่มขึ้น
25...........ไม่ต้องร้องไห้............
26.ได้ทำตามใจตัวเองอย่างเป็นสุขไม่ต้องกังวลถึงเขา
27.คิดถึงคนหลายๆ คนพร้อมกันได้
28.คิดถึงตัวเองมากขึ้น
29.ชินกับการอยู่บ้าน เพราะไม่มีแฟนชวนเที่ยว
30.เล่นเน็ตได้นานสะใจ จะคุยกับใครก็ได้ม่ายมีใครหวง