วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

จงมั่นใจ แล้วเธอจะบินได้สูง

วันนี้เธอเหนื่อยใช่ไหม ที่ข้างนอกมีแต่ความวุ่นวาย
แต่เธอกลับเหมือนเดินอยู่บนเส้นทางที่แสนเปลี่ยว
เธอต้องนั่งเศร้าคนเดียว ทั้งที่เธอเคยทำประโยชย์ให้กับคนตั้งมากมาย
เธอคงรู้สึกว้าเหว่และคงจะรู้สึกว่าการที่เธอจะผ่านมันไปได้
ก็คงจะไม่ง่ายสักเท่าไหร่ หากเธอจะรู้สึกผิดหวัง คลุ้มคลั่ง
ร้องให้ฟูมฟาม ก็จงปล่อยให้อารมณ์เธอทำไป
เพราะอย่างน้อยอาการเหล่านั้นมันจะช่วยให้เธอได้ระบายความเหงา
ความเศร้าลำพังเธอรู้ไหม ถึงมันจะทรมาน แต่มันก็ไม่ทำให้เธอตาย
เธอจงอย่ากลัวว่าเธอจะไม่เหลืออะไร เพราะแท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้เอาอะไรมา
เธออย่ากลัววันข้างหน้า เพราะมันยังมาไม่ถึง
อย่าเกลียดเมื่อวานนี้ เพราะมันทำให้เธอมีวันนี้
และจงภูมิใจในวันนี้ ที่ทำให้เธอมีอยู่อีกวัน
จงภูมิใจในเมื่อวานนี้ที่ทำให้เธอรู้จักคุณค่าของคืนวัน
..จงเชื่อในวันพรุ่งนี้ว่าเธอยังมีความหวัง..
"หากว่าวันนี้เธอเลือกที่จะจากไป แล้วพรุ่งนี้จะมีอะไรให้เธอทำ"
...เธออย่าลืมว่าเธอยังมีความฝัน ขอเพียงเธอมั่นใจ แล้วเธอจะบินได้สูง...

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552

ปัญหาสร้างปรากฏการณ์

เมื่อปรากฏการณ์บางอย่างทำให้เราไม่เชื่อในเรื่องของความมีอยู่จริงของเจตนาดีในตัวมนุษย์ เมื่อเหตุผลที่น่าจะได้รับคำชมเชยกลับกลายเป็นเหตุผลทึ่ถูกตำหนิ เมื่อกุศลจิตเจตนาดีกลับไม่ต่างอะไรกับการวางแผนฆ่าตัวตาย เมื่อคนรัก เพื่อนรัก ลูกจ้างไม่ต่างอะไรกับงูพิษ เมื่อความรู้สึกนึกคิดของคนที่เรารู้สึกรักและคุ้นเคยไม่เป็นเหมือนอย่างเก่า เมื่อเจตนาดีไม่เคยมีใครมองเห็นและไม่เคยให้หลักประกันใดๆกับใครเลย มีใครรู้บ้างไหมว่าทำไมโลกมนุษย์ถึงเป็นเช่นนี้ ความเป็นจริงทางกายภาพขัดกับความเป็นจริงในหลักศีลธรรมโดยสิ้นเชิง แล้วจะมีสักกี่คนที่บอกกับตัวเองได้ว่าทำไม??

ปรัชญาบอกว่าเป็นเพราะคนเเราส่วนใหญ่ มักให้อารมณ์ตัดสินปัญหาโดยไม่ใช้ปัญญา และไม่เข้าใจธรรมชาติของทุกๆสรรพสิ่งที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้อย่างแท้จริง
ธรรมชาติเป็นบ่อเกิดของสรรพสิ่ง คือเกณฑ์ตัดสินความผิดชอบชั่วดี ดังนั้น ผู้ที่มีปัญญาจึงมั่นรักษาบ่อเกิดนี้ไว้ เพื่อเข้าใจรากเหง้าของสรรพสิ่งและย่อมมั่นพิทักษ์กฎเกณฑ์นี้ไว้เพื่อความเข้าใจสาเหตุแห่งแพ้และชนะ ด้วยเหตุนี้เมื่อเกิดปัญหาจงตั้งตนนิ่งพิจารณาเหตุด้วยความสงบ ปล่อยให้ความหมายในตัวของสรรพสิ่งชักนำไปเองและปล่อยให้ปรากฏการณ์ทุกเรื่องกำหนดตัวของมันเอง

ไม่ต้องกลัวใครๆจะเข้าใจว่าเราเป็นคนโง่ ขอเพียงเก็บงำประกาย แสร้งทำเป็นเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเพียงเท่านี้ก็อาจสืบเรื่องราวที่อยากจะรู้ได้โดยไม่ยากและเมื่อสืบเรื่องราวใดๆได้สักเรื่องหนึ่ง ความลับต่างๆมากมายที่หลบซ่อนตัวอยู่ก็จะค่อยๆทยอยกันเปิดเผยตัวออกมาเอง นี่คือบทสรุปและวิธีการของคนที่มีอัจฉริยภาพทางด้านความคิดเขากระทำกัน ซึ่งจะผิดกับคนบางคนที่มี ประทุฐจิต ด้วยการเอาตัวเข้าแลกโดยมุ่งหวังจะได้ลาพยศ และสินบนอันโอชาแต่ละเลยมองข้ามศักศรีของตัวเองและบั่นทอนคุณค่าในตัวของบุคคลอื่น

!! คนที่ไร้ซึ่งสติปัญญามักจะลืมคิดไปว่า วิธีการบางอย่างใช้ได้กับคนแค่เพียงบางคน และวิธีการที่เคยใช้ได้กับคนบางคนหากนำมาใช้กับคนบางคนมันจะทำให้ตัวเองจนใจได้!!

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552

คนไทยด้วยกัน ทำไมทำกันอย่างนี้

วันนี้พระเจ้าเสียสติ พระอาทิตย์สิ้นแรง ดวงดาวไม่อาจส่งแสง ผู้หลักผู้ใหญ่ทำอะไรไม่ได้กฎหมายค้ำคอ นายกเป็นสุภาพบุรุษจนกว่าชีวิตจะหาไม่ รัฐมนตรีนั่งสาดแต่น้ำลาย ประชาชนวุ่นวายกฎหมายเป็นหมันไม่อยากจะเชื่อว่าประเทศไทยจะถอยหลังได้ถึงขนาดนี้ทั้งที่ตอนนี้เรากำลังอยู่ในยุคของโลกโลกาภิวัตน์โลกของข้อมูลข่าวสารแต่ทำไมความสมัยใหม่มันไม่ได้ทำให้คนไทยเปลี่ยนความคิดเป็นคนสมัยใหม่ได้บ้างทำไมยังถูกครอบงำจากความบ้าป่าเถื่อนยังทำตัวเหมือนคนยุคหิน ความคิดเหตุผลในสมองหายไปไหนหมด คำที่เคยพร่ำบอกว่ารักเมืองไทยวันนี้ลืมกันไปหมดแล้วหรือไง


สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้หัวใจคนไทยหลายคนแทบสลาย ทุกอย่างในสมองว่างเปล่าไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในสายตา...ภาพคนในเมืองไทยทุบหม้อข้าวของตัวเอง ภาพที่เห็นไม่อาจมีคำใดๆมาอธิบายเป็นคำพูดได้เลยจริงๆ ทุกอย่างมันว่างเปล่าภาพทุกภาพที่เคยมีมายาวนาน.... บัดนี้ว่าง หัวใจทุกดวงเลือนรางมันว่างเปล่าไม่อาจทดแทน ใครบอกได้บ้างว่าบ้านเมืองเราตอนนี้ทุกคนเป็นอะไร ผู้หลักผู้ใหญ่ทำอะไรกันอยู่ แล้วคนไทยกลุ่มนั้นเค้ารู้ไหมว่าเขาได้ทำอะไรลงไป แล้วที่พวกคุณพากันโห่ร้องคุณสนุกกันมากใช่ไหม เห็นความพินาศของประเทศไทยคือความภูมิใจอย่างยิ่งของพวกคุณงั้นหรือ ภารกิจอันยิ่งที่พวกคุณร่วมกันทำมันคือการทำความพินาศให้ประเทศไทยแล้วตอนนี้คุณทำสำเร็จแล้ว พวกคุณพากันร่วมฉลองในความสำเร็จที่เห็นเมืองไทยพินาศวอดวาย โถ!!นี่หรือคนไทย นี่หรือสยามเมืองยิ้ม


วันนี้พายุพัดบ้านที่โอนเอนไม่แข็งแรงของเราจนเกือบพังกำแพงบ้านของเราก็ไม่อาจป้องกันอะไรให้เราได้ มันเป็นเพราะอะไร ?? ผู้คนมากมายที่เขากำลังทำร้ายเมืองไทยที่เขากำลังอยู่ในเส้นทางที่ผิดมีใครจะนำพวกเขากลับมาได้บ้าง ใครก็ได้ซักคนที่เข้าใจว่าตอนนี้เรากำลังเผชิญอยู่กับอะไรช่วยเข้ามาช่วยประเทศไทยหน่อยได้ไหมหรือว่าจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้เรื่อยๆจนกว่าเราจะสิ้นประเทศไทย.. วินาทีนี้หัวใจหลายดวงของคนไทยเจ็บปวดแทบสลาย.. ทุกๆความฝันพังทลาย....พวกผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายภาพที่พวกคุณมองเห็นวันนี้...ขอถามหน่อยว่าพวกคุณรู้สึกกันยังไงทุกๆรอยช้ำแห่งความผิดหวัง ความรู้สึกเจ็บปวดของหัวใจทุกดวงหรือแม้แต่หัวใจของคุณก็ยังร่ำร้องว่ามันไม่ยุติธรรมแล้ววันนี้วินาทีนี้มันจะทำให้พวกคุณตัดสินใจกันได้หรือยังว่าควรต้องทำอะไร


ทุกคนบอกว่ารักประเทศไทยบอกว่ารักความเสรี แต่สิ่งที่ทุกคนแสดงให้เห็นมันกลับเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงเราทุกคนอาจหลอกโลกกลมๆใบนี้ได้ แต่ไม่อาจหลอกลวงหัวใจตัวเองได้การกระทำวันนี้มันฟ้องทุกอย่าง ภาพของวันนี้มันเป็นข้อพิสูจน์ได้แล้วว่าคนไทยรักประเทศของตัวเองรูปแบบไหน และเมื่อมาถึงวินาทีนี้เมื่อความพินาศบังเกิดเราคนไทยทุกคนกำลังนับเวลาถึงการเริ่มต้นครั้งใหม่อีกแล้ว และมันจะเป็นอย่างนี้อีกนานไหม??


จะมีบ้างไหมรัฐบาลที่เป็นความหวัง เป็นความฝัน เป็นคนเข้มแข็ง เป็นคนที่รักษาสัจจะ เข้าใจเหตุผลสำหรับการดำรงอยู่ต่อไปและความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น ฉันเข้าใจว่าไม่มีใครสามารถเป็นคนที่ดีพร้อมได้แต่พวกคุณก็ต้องเข้าใจว่าไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุณพูดได้นอกจากคุณจะเป็นคนกระทำให้สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง หยุดสร้างภาพหยุดหลอกลวงหยุดมอมเมา ประเทศไทยไม่มีเวลาให้คุณเล่นเกมกันแล้ว.. พวกคุณยังจะให้คนไทยต้องรอและยังต้องนับหนึ่งกันอีกนานเท่าไร หรือว่าจะรอให้ถึงเวลาที่ดาวตกทุกดวง...อยากจะน้ำตาร่วงกันอีกครั้ง...อย่างนั้นหรือ??

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

ความฝันที่หายไป



ได้แต่นอนมองดูความฝันของฉันที่กำลังล่องลอยจากไปอย่างช้าๆ
..ได้แต่นั่งตัดพ้อกับโชคชะตา..
ว่าทำไมถึงต้องซ้ำเติมกันซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่คิดจะปราณี
เวลาที่ต้องติดอยู่ในห้วงเวลาของความผิดหวัง
ช่วงที่ชีวิตพลิกผันอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวและเตรียมใจ...
ชีวิตทั้งชีวิตเหมือนติดกับดัก..ที่ไม่สามารถจะเคลื่อนไหว
ช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้..แม้แต่เสียงที่ตะโกนออกไปก็ยังไม่ดัง
..ทำดีที่สุดได้แค่นั่งภาวนา..
รอให้ใครสักคนผ่านเข้ามาแล้วช่วยตัดเชือกที่มันผูกติดขาฉันไว้
..แต่ที่สุดของความเลวร้ายก็คือ..
รอบๆตัว...ที่ฉันมองไปกลับกลายเป็นความว่างเปล่า..

..แล้วนี่ฉันจะต้องทำอย่างไรต่อไป...
..ได้แต่ถามดาว..
ท้องฟ้า..จะรู้บ้างหรือเปล่าตอนนี้ฉันเศร้าเหลือเกิน
ฉันพยายามหลอกตัวเองว่าฉันยังไหว
สั่งหัวใจให้ช่วยปลอบตัวเองว่าต้องเข้มแข็งเข้าไว้
แต่น้ำตาสิมันกลับไม่ยอมที่จะหยุดไหล...
และฉันก็คงต้องปล่อยให้มันไหลไป...

สุดท้าย..ฉันจะบอกกับตัวเอง..ให้คิดว่า..
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมา...มันคงเป็นเรื่องของชะตากรรม...

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2552

ขอบฟ้า ขอบฝั่ง ความหวัง แผ่นดิน

ฉันรอนแรมมาไกลในทะเลด้วยเรือน้อยลอยไปไม่รู้ทาง
ตรงขอบฟ้ามองไปยังไม่เห็นขอบฝั่ง
ต้องเดินทางไปอีกสักเท่าไร
ฉันไม่หวั่นเมื่อมีพายุมากีดขวาง
เรือจะอับปางแต่ฉันยังอยู่ ก็ต้องสู้มันไป
มีความตั้งใจจุดหมายคือแผ่นดิน
เหลือสองมือเปล่าปลายทางยังแสนไกล
มีความอดทนเท่านั้น สักวันหนึ่งต้องถึงแดนไกล
ฉันลอยคอเดียวดายในทะเล ว่ายตามน้ำตามไปไม่รู้ทาง
ตรงขอบฟ้ามองไปยังไม่เห็นขอบฝั่ง
ต้องเดินทางไปอีกสักเท่าไร (ฉันไม่หวั่น)
มีคลื่นลมแรงโถมกระหน่ำมา
แขนฉันอ่อนล้าใจฉันก็ยังสั่ง ให้สู้มันไป
มีความตั้งใจจุดหมายคือแผ่นดิน
เหลือสองมือเปล่าปลายทางยังแสนไกล
มีความอดทนเท่านั้น สักวันหนึ่งต้องถึงแดนไกล
บอกกับตัวเองไม่ยอมแพ้
จะเหนื่อยสักเพียงใดต้องทนไหว
...และจะไม่มีอะไรที่ยากเกินไป..
...ชีวิตคนเราบางครั้งก็ต้องอดทนกล้ำกลืน...
ยอมรับกับสภาพความเป็นจริงของตัวเอง
...วันนี้หมดแรง..หัวใจเหนื่อยล้า..สมองมันชา...
ทุกอย่างในร่างกายบอกว่าขอพัก...ไม่มีแรงบันดาลใจที่จะคิดอะไรออกมาได้
หัวใจฉันหมดแรงหมดไฟ...เสียงในหัวใจบอกแต่คำว่า..
...ฉันไม่ไหวแล้ว...
เหมือนทุกอย่างมันตั้งใจซ้ำเติม..ให้โลกนี้ต้องวอดวาย...
...มองไปทางไหนทำไมมันมีแต่ปัญหา...
หากทุกอย่างต้องอาศัยเวลา...ฉันก็ขอภาวนา
ขอให้เวลาช่วยนำพาให้คลื่นลมที่โหมกระหน่ำซ้ำเติม
ทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศของเราตอนนี้
...ผ่านไปเร็วๆ...
และก็คิดว่าเนื้อเพลงนี้...น่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด
และช่วยให้หัวใจของฉัน
และบางคนที่อาจจะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับฉัน
...ได้มีแรงพอหายใจ...
..อยู่บนโลกนี้ต่อไปได้อีกสึกอึดใจ..
...วินาทีนี้บอกกับหัวใจตัวเองได้แต่เพียงคำว่า....
...ต้องอดทน...

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2552

ชีวิตทุกชีวิต ไม่ใช่เกมๆหนึ่ง

ฉันเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาตัวเล็กๆคนหนึ่งในโลกดิจิตอลไอที โลกที่ไม่มีเขตแดน ไม่มีเจ้านาย ไม่มีลูกน้องมันไม่ใช่เป็นสิ่งมีชีวิตไม่เป็นนกสองหัวแต่มันบอกฉันทุกอย่าง ทุกๆกลางดึกในเวลากลางคืนที่ทุกคนกำลังนอนหลับใหลอย่างสบาย แต่ฉันก็ยังตื่นอยู่ และก็ได้เปิดดูข่าวสารบ้านเมืองดูความเป็นไปของคนในสังคมเราในโลกดิจิตอลแห่งนี้ แต่สิ่งที่ฉันเห็นความจริงที่เกิดขึ้นในนั้นกลับทำให้ฉันต้องใจสลาย ฉันบอกกับหัวใจตัวเองว่าทั้งหมดที่ฉันกำลังได้มองเห็นอยู่นี้มันรุนแรงเกินไป เกินกว่าที่คนไทยอย่างฉันที่พ่อแม่พี่น้องปลูกฝังใส่หัวมาตลอดว่า เกิดเป็นคนไทยต้องรักชาติศาสนา พระมหากษัตรอย่างฉันจะรับได้จริงๆ


ฉันรู้สึกว่าประเทศและสังคมที่เรากำลังใช้ชีวิตกันอยู่นี้ กำลังทำร้ายตัวเองและกำลังสร้างให้ประชากรของตัวเองทำความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงให้เกิดขึ้นกับประเทศของเรา ความขัดแย้งระหว่างความคิดที่มันยืดเยื้อ สงครามประชาชนครั้งที่สองที่กำลังก่อตัว มันไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะมานั่งบอกกับตัวเองได้ว่าปล่อยไปเถอะเดี๋ยวมันก็จบไปเอง เราคนไทยทุกคนตอนนี้กำลังรู้ตัวหรือเปล่าว่าพลังทั้งหมดที่ควบคุมและบงการแผ่นดินแห่งนี้ มันไม่ใช่เป็นพลังของความถูกต้องดีงาม


แต่มันเป็นพลังของคนที่เขากำลังบ้าขาดสติ ลืมความคิดและการกระทำของตัวเอง เขาลืมไปว่าสิ่งที่เขากำลังออกมาเรียกร้อง คำว่าประชาธิปไตย และความยุติธรรมที่เขาสมควรจะได้นั้น แท้จริงแล้วมันไม่มี เพราะสิ่งต่างๆเหล่านั้นเขาได้ทำลายฆ่าตัดตอนมันไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาได้เคยดำรงความยิ่งใหญ่อยู่ในพื้นแผ่นดินแห่งนี้ เขาจะเคยรู้ตัวบ้างไหมว่าสิ่งที่เขาได้เคยทำทิ้งเอาไว้ ตอนนี้มันกำลังสนองตอบเขาอยู่ แล้วตอนนี้เขายังจะมาปั่นให้คนในพื้นแผ่นดินนี้ทำลายกันเองเพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรม พวกเขากำลังเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า หรือว่าสมองเขาถูกเงินทำลายไปหมดแล้ว


ฉันพยายามจะทำความเข้าใจว่าเขาไม่มีทางเลือกและไม่มีทางออกแต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เค้ากำลังทำเค้ามีความสุขกับมันไหมและความสุขนั้นมันเกิดขึ้นยังไง คุณเอาสตรีมาเป็นทหาร เอาคนแก่มาเป็นยามยืนถือปืน คุณเอาชีวิตของคนบริสุทธิ์ทั้งหลายที่เขาดูเหมือนเป็นคนโง่งมงายในความคิดคุณมาสนองความเจ็บปวดของตัวเอง หากสงครามประชาชนครั้งที่สองได้เกิดขึ้น หากหลายๆชีวิตที่ต้องตายไป และหากพวกเขาเหล่านั้นได้กลายเป็นญาติของพวกคุณมันจะทำให้คุณน้ำตาล่วงได้ไหม

ความรู้สึกโกรธแค้นจากหัวใจทุกดวงที่พวกคุณทำให้พวกเขาต้องปวดร้าวยิ่งนานวันมันก็ยิ่งทวีคูนจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ความเจ็บปวดที่แลกมาด้วยชีวิตของคนบริสุทธิ์ ชัยชนะที่ได้มาบนคราบเลือดที่ไหลนองแผ่นดินวันนี้อยากถามหน่อยว่ามันคุ้มไหมกับสิ่งที่คุณคิดว่าคุณจะได้รับแล้ววันนี้พวกคุณยังไม่คิดจะหยุดมันอีกหรือ

ชีวิตทุกชีวิตไม่ใช่เป็นแค่เกม เกมหนึ่ง คุณอาจมีโอกาสได้อ่านหนังสือดีๆหลายเล่ม คุณอาจได้เรียนรู้วิธีที่ทำให้พวกคุณดูดีจากหนังสือดีๆเหล่านั้น คุณมีที่ปรึกษาที่คุณจ้างมาเพื่อสร้างภาพให้คุณดูดีด้วยราคาแพงลิบลิ่ว คุณมีนักการเมืองที่เงินคุณซื้อได้ คุณมีความสามารถพิเศษที่จะเรียนรู้วิธีการควบคุมจิตใจคนมามากมายแต่คุณกลับไม่รู้ว่า คำว่า ศีลธรรม กับจริยธรรมนั้นเค้ามีขายกันที่ไหน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เงินคุณซื้อได้แต่มีสิ่งหนึ่งที่เงินคุณจะซื้อไม่ได้ นั่นก็คือบาปของคุณและมันก็จะติดตัวคุณไปจนตลอดชีวิต


!!ถ้าอยากได้หัวใจอย่าใช้เงินซื้อ ถ้าอยากยิ่งใหญ่อย่างยั่งยืนอย่ามาเล่นเกม และถ้าหากเกมนี้คุณชนะ คุณคงจำรถบรรทุกศพคันนั้นได้ที่คุณเคยสั่งการให้คนของคุณไปทำกับคนเหล่านั้นไว้ ครั้งนี้คุณจะได้เห็นมันอีกครั้ง และวันนั้นคุณอาจจะหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บปวดถ้าหากวันนั้น 1ในศพของคนพวกนั้นเป็นญาติของคุณ!!

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

เพื่อนรักออนไลน์

ในชีวิตของบางคน..ต้องทนอยู่อย่างเหงาใจ...ไขว่คว้าความอบอุ่นใจซักเท่าใดก็ไม่อาจพบเจอ...
แต่ว่าฉันนั้นโชคดี ที่ได้เกิดมาพบเธอ...เธอคือคนที่ทำให้ช่วงเวลาในชีวิตของฉันไม่ต้องเงียบเหงาตลอดไป
. ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันได้พบและรู้จักกับมิตรภาพที่สวยงามในโลกไซเบอร์ตั้งมากมาย
มีหลายคนที่ผ่านเข้ามา...แล้วเพียงไม่นานก็เดินจากไป...
โลกของฉันอาจจะแคบ...แต่จะมีซักกี่คนที่พยายามทำความเข้าใจและยอมรับในความเป็นตัวฉัน?
จะมีซักกี่คนที่ไม่โกรธและเข้าใจว่าทำไมฉันจึงไม่ชอบรับสายและคุยทางโทรศัพท์?
เราอาจจะมีเบอร์โทรฯ ของกันและกันแต่เราไม่เคยโทรฯคุยกัน
จะมีก็เพียงแต่ข้อความที่ส่งถึงกันเพื่อบอกกล่าวคำว่า..ฝันดีนะคะ
ส่วนใหญ่มิตรภาพที่สวยงามและความรู้สึกดีๆจะบอกผ่านกันทางตัวหนังสือและถูกส่งถึงกันผ่านแค่ทางหน้าจอคอมพิวเตอร์..
แต่ถึงอย่างนั้น...ฉันก็ยังสัมผัสได้ถึงความอุ่นใจและความห่วงใยที่ถูกส่งผ่านออกมา...
ถึงแม้ว่าบางครั้ง...ฉันก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่ามันกลั่นออกมาจากหัวใจหรือเปล่า...
แต่อย่างน้อยทุกๆวันตัวหนังสือเหล่านั้นมันก็ทำให้ฉันไม่เงียบเหงาอยู่ในโลกแคบๆที่มีแต่ความว่างเปล่ากับเสียงของหัวใจตัวเองไปตลอดทั้งวันที่ฉันต้องพบเจอ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เพื่อนออนไลน์และตัวหนังสือมีชีวิตทั้งหลายที่วิ่งผ่านเข้ามา..และช่วยอยู่เป็นเพื่อนกันทำให้ฉันไม่ต้องอยู่อย่างเหงาใจตลอดเวลา
ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนน้ำใจสำหรับสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้ยังไง...
ในวินาทีนี้ฉันบอกได้แต่เพียงว่า "เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน"ไม่ต่างกันกับเพื่อนที่มีตัวตนอย่างที่ฉันเคยมีมา
ขอบคุณ...สำหรับวันเวลาที่ทำให้ฉันไม่เงียบเหงา
ขอบคุณ...สำคำทักทายเก่าๆที่บอกว่า... ดีจ้าไอซ่าทานข้าวหรือยัง
ขอบคุณ...ที่เข้าไปคอมเม้นให้กัน...ขอบคุณ...ที่ให้เกียรติแอดฉันเป็นเพื่อนของเธอ
ขอบคุณ...ที่ส่งความรู้สึกห่วงใยผ่านความน่ารักสดใสมาให้กับตัว การ์ตูน เสมอๆๆ
ความน่ารักของพวกเธอ...รู้ไหมมันทำให้ฉันมีความสุขมากมาย
สิ่งดีๆทั้งหลายที่เธอส่งผ่านมาให้ฉันจะบันทึกทุกอย่างไว้ในความทรงจำดีๆของฉันตลอดไป...

ขอบคุณมากมาย..เพื่อรักนออนไลน์..ไอซ่า..

วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

หนักแผ่นดิน

เกลียดไอ้พวก...... กากเดน...... ของแผ่นดิน
เกลียดไอ้พวก...... ดูหมิ่น........ พระราชา
เกลียดไอ้พวก...... รับใช้......... หมาไนล์บ้า
เกลียดไอ้พวก...... ชอบด่า........ ประเทศไทย


เกลียดไอ้คน....... ที่ชอบคิด........ ด้วยต้นคอ
เกลียดไอ้คน....... ที่รักพ่อ.......... แต่ขออยู่เฉยๆ
เกลียดไอ้คน....... ที่พูด พูด......... แต่ไม่ได้อะไรเลย
เกลียดไอ้คน .......ที่เฉย เฉย........ แต่รับตังค์


บัดนี้............ ขอสาปแช่ง.......... กับพื้นพสุธา
ใครที่มัน ........คิดโค่นล้ม........... องค์ราชา
ตลอดชีวิต....... ทั้งนั่งยืน............. ตื่นและหลับตา
ขอให้มัน........ จงร้อนรุ่ม............. อุราไปจนตาย