วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

~ถูกผิดในแบบของโสกราตีส~

      ทำไมการเจรจาของรัฐบาลกับเสื้อแดงถึงไม่บรรลุผล?
      ทำไมปัญหาบ้านเมืองจึงหาข้อยุติร่วมกันไม่ได้?
      ทำไมถึงเถียงกันด้วยเรื่องเก่าๆมาเป็นเวลายาวนาน?

... คุณเคยมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในสมองคุณบ้างไหมและคุณรู้ไหมว่าเราควรจะทำความเข้าใจกับปัญหาเหล่านี้กันอย่างไร....หากคุณไม่ยอมรับและไม่ยอมที่จะเข้าใจ..เราลองมาฟังทัศนะคติของนักปรัชญากันไหมเผื่อจะทำให้เราได้เข้าใจอะไรที่ง่ายขึ้น..

โสกราตีส : “เทพต่างทัศนะกันด้วยเรื่องอะไรเล่า อะไรทำให้โกรธเกลียดกัน” ยกตัวอย่าง เช่น ท่านและข้าพเจ้าขัดแย้งกันด้วยเรื่องจำนวนตัวเลข เป็นต้นว่าเลขสองหลักนี้ เลขไหนใหญ่กว่า ข้อขัดแย้งนี้ควรจะทำให้เราเป็นศัตรูกัน ทำให้โกรธกันไหม หรือควรที่เราจะหาทางแก้ความขัดแย้งด้วยตกลงกันด้วยทางคณิตศาสตร์


ยูไทโฟร : เราย่อมจะทำเช่นนั้น

โสกราตีส : ถ้าเราขัดแย้งกันเรื่องความยาว เราก็ย่อมตกลงกันได้อย่างเร็วด้วยการวัด

ยูไทโฟร : ถูกละ

โสกราตีส : ในเรื่องน้ำหนัก เราก็ตกลงกันด้วยการชั่ง

ยูไทโฟร : แน่นอน

โสกราตีส : ก็เช่นนั้นอะไรเล่า ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างหาทางแก้ไม่ได้ จนทำให้ต้องเป็นศัตรู โกรธขึ้งกันและกันท่านอาจตอบไม่ได้ทันที จึงขอให้ข้าพเจ้าลองแนะดู ว่าเป็นเรื่องถูกผิด ดี ชั่ว งาม ไม่งามเสียดอกกระมัง ปัญหาเช่นนี้มิใช่หรือที่ท่านและข้าพเจ้าและคนอื่นๆกลายเป็นศัตรูกันขึ้น เราเป็นศัตรู ก็เพราะเห็นแตกต่างกันจนไม่สามารถลงมติกันได้

ยูไทโฟร : ใช่แล้วโสกราตีส ปัญหาเหล่านี้เองที่ทำให้เป็นอริกัน

โสกราตีส : แล้วเทวดาเล่า ยูไทโฟร ถ้าต่างทัศนะกัน จะมิใช่เพราะปัญหาเช่นนี้ดอกหรือ

ยูไทโฟร : จำเป็นอยู่เอง

โสกราตีส : ยูไทโฟรที่น่านับถือ ตามที่ท่านกล่าวมานั้นแสดงว่า เทพเองก็มีมติแตกต่างกันในเรื่อง ถูกผิด ดีชั่ว งามไม่งาม ถ้าเห็นพ้องต้องกันในเรื่องเหล่านี้เสียแล้ว ก็คงไม่ต้องทะเลาะกันมิใช่หรือ

ยูไทโฟร : ถูกล่ะ

โสกราตีส : ฉะนั้นถ้าเทพองค์ใดถือว่า อะไรดีอะไรงามอะไรถูก ก็ย่อมรักสิ่งนั้น และก็เกลียดสิ่งซึ่งตรงกันข้าม

ยูไทโฟร : ใช่

โสกราตีส : ท่านบอกว่าสิ่งหนึ่งนั้นเทพบางองค์อาจถือว่าถูก บางองค์อาจถือว่าผิด มติต่างกันนี่เองที่ทำให้วิวาทกัน ทำสงครามกัน ท่านว่าเช่นนั้นมิใช่หรือ

ยูไทโฟร : ใช่

โสกราตีส : ถ้าเช่นนั้นก็ดูประหนึ่งว่า เทพรักและเกลียดสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ได้ สิ่งนั้นจึงเป็นทั้งวัตถุแห่งความรักและความเกลียด ในเวลาเดียวกัน

ยูไทโฟร : ก็ดูจะเป็นเช่นนั้น

โสกราตีส : ถ้าเช่นนั้น ท่านผู้เป็นมิตร ท่านมิได้ตอบปัญหาข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ถามท่านว่าอะไรคือที่เป็นสุทธิและอสุทธิในขณะเดียวกัน แต่ตามคำตอบของท่านนั้น สิ่งที่เทพรักก็เป็นสิ่งซึ่งเทพเกลียดเช่นกัน จึงไม่น่าประหลาดใจอะไรเลย ยูไทโฟร ที่ท่านลงโทษบิดาท่าน การกระทำเช่นนั้นย่อมถูกใจซุส แต่เป็นที่เกลียดชังของโครนัสและยูเรนัส เป็นที่พอใจของเฮเพียสตัสเป็นที่ชิงชังของเฮรา เรื่อยไปจนถึงเทพองค์อื่นๆ ถ้าต่างก็มีมติผิดแผกกันออกไป

ยูไทโฟร : แต่โสกราตีส ข้าพเจ้าเชื่อว่าเทพทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่า คนที่ฆ่าคนอื่นอย่างผิดๆนั้นต้องถูกลงโทษ

โสกราตีส : ยูไทโฟร เเม้ในหมู่มนุษย์ท่านก็เคยได้ยินเราเถียงกันใช่ไหมว่า คนที่ฆ่าผู้อื่นอย่างผิดๆหรือทำผิดอย่างอื่นใดนั้น สมควรที่จะถูกลงโทษ

ยูไทโฟร : อ๋อ เรื่องนี้เถียงกันเสมอ โดยเฉพาะในศาล เพราะทำผิดกันมาก แต่แล้วก็โต้เถียงป้องกันตัวเอง เพื่อเลี่ยงการลงอาญา

โสกราตีส : ก็พวกนี้ยอมรับไหมล่ะ ยูไทโฟร ว่าเขาทำหรือยอมรับแล้ว แต่โต้เถียงว่าไม่ควรได้รับโทษ

ยูไทโฟร : เปล่า พวกนี้ไม่กล้าเถียงอย่างนั้นหรอก

โสกราตีส : เป็นอันว่าพวกนี้ไม่กล้าเถียงกันถึงเพียงนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าทำผิด เขาคงไม่กล้าคัดค้านว่าไม่ควรลงโทษเขา เพียงยืนยันว่าตนมิได้ทำผิดเท่านั้น

ยูไทโฟร : ใช่แล้ว

โสกราตีส : จึงเป็นอันยอมรับกันว่า ผู้ผิดย่อมควรรับโทษ ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าใครผิด ทำอย่างไรจึงถือว่าผิด

ยูไทโฟร : จริง

โสกราตีส : เทพก็เหมือนกัน ถ้ายังคงมีความขัดแย้งกันเรื่องถูกผิดดังที่ท่านบอกข้าพเจ้า บ้างว่าฝ่ายหนึ่งผิดบ้างก็ว่าไม่ผิด แต่สหายเอ๋ย ทั้งมนุษย์และเทวดาส่วนมากก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรนำคนผิดมาพิพากษา

ยูไทโฟร : ใช่

โสกราตีส : ยูไทโฟรที่รัก ถ้าเช่นนั้น ก็ขอท่านจงได้บอกเพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉลาดขึ้น ว่าท่านได้มีข้อพิสูจน์อะไร ที่ว่าเทวดาทั้งหลายเห็นว่า เป็นการผิดของนาย ที่ทำลูกจ้างให้ตายด้วยการล่ามโซ่ไว้ ก่อนที่ตนจะรู้ว่าควรจะทำประการใดกับลูกจ้าง ผู้ซึ่งได้ฆ่าคนอื่นมาแล้ว และจะเป็นการถูกต้องอย่างไรที่บุตรจะพึงฟ้องบิดาฐานฆ่าคนตาย ขอท่านจงพิสูจน์ให้ข้าพเจ้าเห็นชัดว่าเทวดาถือว่าการกระทำเช่นนี้ถูกต้อง ถ้าท่านแสดงอธิบายให้เป็นที่พอใจข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะสรรเสริญสติปัญญาท่าน ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่

แล้วเราทุกคนในเมืองไทยล่ะกำลังเถียงกันด้วยเรื่องอะไร ??

สิ่งที่แบกและถูกแบก นำและถูกนำ เห็นและถูกเห็น คำคู่ที่มีความหมายแตกต่างกัน เราทำความเข้าใจกับความหมายที่แตกต่างนั้นไหม????

คุณอยากเป็นผู้ที่แบกหรือได้รับการแบก ?

คุณอยากเป็นผู้นำ หรือได้รับการนำ?

คุณอยากเป็นผู้ที่ถูกเห็นหรือได้รับความคิดเห็น?

...ทุกๆสิ่งที่คุณเห็นว่ายุติธรรมคุณคิดว่าสิ่งนั้นจะต้องบริสุทธิ์ด้วยไหม หรือแค่อยากให้สิ่งที่อยุติธรรมทั้งมวลไม่จำเป็นต้องบริสุทธิ์ทั้งหมดพียงแค่บริสุทธิ์บ้างเป็นอื่นบ้าง???? เก็บคำถามเหล่านี้ไปถามตัวเอง...เมื่อคุณต้องการความสงบสุขอย่างแท้จริง...

....วัคซีน....

วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

~โลกในแบบของโสกราตีส~

      
  
        มุมมองของโลกนี้ในความคิดของมนุษย์แต่ละคนเป็นอย่างไร และแบบของโลกในความคิดของคุณนั้นเป็นรูปทรงไหนและคุณเชื่อฟังแบบของโลกนี้จากการบอกกล่าวของคนกลุ่มใด นักดาราศาสตร์ นักภูมิศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ นักปราชญ์ หรือ คุณเชื่อในพระเจ้า????


       โลกในความเชื่อของโสกราตีสนั้นคือ : โลกนี้กลม ล้อมรอบไปด้วยสวรรค์ จึงไม่จำเป็นที่อากาศหรือพลังอำนาจอื่นใดที่จะต้องมาคอยพยุงไว้ หากคงตัวอยู่ได้โดยไม่ตกลงมา เพราะสวรรค์และโลกย่อมทรงตัวอยู่ได้เอง

“ สิ่งใดก็ตามที่ทรงตัวอยู่ได้และอยู่ท่ามกลางสิ่งอื่นที่ทรงตัวอยู่ได้เช่นกัน สิ่งนั้นย่อมไม่จมหรือลอยขึ้น หรือหันเหไปทางอื่นหากคงที่อยู่อย่างเดิม”

    โลกใบนี้กว้างใหญ่ พื้นที่อันเรานั้นอาศัยอยู่ เป็นเพียงเนื้อที่ส่วนน้อยของโลกเท่านั้น เราอยู่ริมฝั่งทะเลเหมือนมดหรือกบอาศัยอยู่ริมขอบบ่อฉันนั้น คนเหล่าอื่นก็เช่นกัน

      คนเราส่วนใหญ่หารู้ตัวไม่ว่าอาศัยอยู่ในร่องลึกของโลก ด้วยมักเข้าใจว่าอยู่บนผิวโลก ขอให้นึกถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่ก้นท้องทะเล เขาอาจนึกว่าเขาอยู่บนผิวโลก แลเห็นดวงอาทิตย์และดวงดาวอื่นๆผ่านน้ำขึ้นมา ไม่เคยเผยอขึ้น หรือนำตนให้พ้นน้ำขึ้นมาสู่โลกของเรานี้เพื่อจะได้เห็นหรือฟังจากคนที่ได้เคยเห็น ว่าโลกนี้สะอาดกว่างามกว่าโลกอันประชากรของเขาอาศัยอยู่

      เราเองก็อยู่ในฐานะดังกล่าวนั้น ด้วยเราอยู่ในร่องลึกของโลก แต่เข้าใจว่าอยู่บนผิวโลก เราเรียกอวกาศว่าสวรรค์ ดังหนึ่งว่าดวงดาวต้องอาศัยสวรรค์เหล่านี้โคจร ทั้งนี้ก็เพราะเราเกียจคร้านอ่อนเปลี้ย เกินกว่าที่จะพยุงตนให้พ้นขอบเขตเบื้องบนสุดแห่งอวกาศ

      ถ้าใครได้ขึ้นถึงยอดเขา หรือใส่ปีกบินได้ เมื่อเผยอศีรษะขึ้นย่อมจะเห็นโลกเบื้องบน เหมือนปลาเห็นโลกของเราเมื่อเผยอหัวพ้นน้ำ และถ้าธรรมชาติของเขาผู้นั้นสามารถให้ตนเองตัดสินใจได้จากการเห็น ก็จะรู้ได้ว่านี่คือสวรรค์ที่แท้จริง นี่คือแสงที่แท้

  “โลกของเราเองตลอดจนศิลารอบๆเขตที่เราอยู่นั้น ต่างก็เสื่อมคุณภาพ  ดุจเดียวกับสิ่งต่างๆในท้องทะเลที่ผุกร่อนเพราะน้ำเค็ม  ฉะนั้นไม่มีอะไรเลยอันควรกล่าวขวัญถึงว่าวิเศษสมบูรณ์”

.....
.....
.....

  ...เรื่องร้ายๆในโลกนี้สามารถเกิดขึ้นมาใหม่ได้ตลอดเวลา การใช้เวลาของชีวิตซึ่งมีที่สิ้นสุดไปจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั้น   คงจะไม่ได้ผลอันน่าชื่นชมนัก และคุณก็ไม่ใช่พระเจ้าการใช้เมตตาจิตกล่อมเกลาประชาชนที่ต่างความคิด วิธีการเช่นนั้นย่อมเป็นวิธีที่กินแรงและไร้ผล หากคุณรู้ตัวว่าไปต่อไม่ได้ก็จงหยุดเถิดอย่าให้ ”น้ำผึ้งเพียงหยดเดียว” ทำร้ายเมืองไทยจนหาทางสิ้นสุดไม่ได้เหมือนกับปัญหาใน3จังหวัดชายแดนใต้  ที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกเลย…

 
                                                                                                                     ...วัคซีน....

วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553

หลับให้สบายนะจ่าเพียรคนกล้า




วันที่โลกหลับไหล

วันที่พระอาทิตย์ไม่อาจสาดแสงลงไปถึงใครบางคน

วันที่มัจจุราชได้พรากชีวิตสุดที่รักของใครบางคนให้จากไปตลอดกาล

พระจันทร์เต็มดวงยังลอยเด่นอยู่บนม่านฟ้าที่มืดมิด

ดวงดาวรับรู้เสียงแว่วของหัวใจที่ร่ำให้

สายลมยังคงขับกล่อมบทกวีด้วยความระทม
....
....

หลับให้สบายเถอะนะที่ปลายฟ้าแห่งนั้นจะโอบกอดคุณไว้

หากว่าช่วงเวลามันแสนสั้นเหลือเกิน

ไม่เพียงพอเผื่อให้คุณได้กระทำทุกสิ่งได้อย่างที่ใจคุณหวัง

และสิ่งที่คุณหวังก็ยังไม่ปรากฎออกมาเป็นความจริง

 แม้ฝันในกล่องใบนั้นยังคงว่างเปล่า

ก็ไม่ต้องเสียใจหรอกนะ

ปล่อยให้มันว่างเปล่าอยู่อย่างนั้นไม่ต้องเอาสิ่งใดไป
....
....

ปล่อยให้กล่องใบนั้นยังคงมากล้นด้วยความทรงจำ

ปล่อยให้กล่องใบนั้นรอการเติมเต็มด้วยความฝัน

และเรื่องราวของคนที่เหลืออยู่ได้สืบสานความสงบสันติต่อไป
....
....

ท่วงทำนองของชีวิตที่ถูกฟ้าลิขิตมา

ห้วงเวลาที่ไม่อาจนำกลับคืนมาได้อีกครั้ง

ความผิดพลาดครั้งนี้แม้แต่เทวดาก็มิอาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดๆออกมาได้เลย

เราพลาดกันมาไกลเหลือเกินเราก้างล่วงกันมาไกลแสนไกล

 ไกลจนไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวหัวใจที่แหลกสลายจะอภัยให้กับความอยุติธรรมในครั้งนี้
....
....

ค่ำคืนที่แสนโหดร้ายของเขาได้จบลงไปแล้ว

พรุ่งนี้เค้าไม่ต้องตื่นขึ้นมาพบกับเสียงระเบิดอีกแล้ว

เหลือเพียงเราเท่านั้นที่ยังต้องจมลึกลงไปในห้วงนิทานอันเงียบเหงา

พร้อมกับพาหัวใจที่แสนเศร้าให้ต้องอดทนเดินต่อไป
....
....

กำแพงที่ล้อมอยู่รอบตัวเรานั้นช่างสูงเหลือเกิน

ปราการนั้นสร้างฝังรากลึกตรึงลงในหัวใจอย่างแน่นหนา

มากคนเห็นแก่ตัว

 หลายคนโดดเดี่ยว

บางคนถูกทิ้งให้ต่อสู้ตามยถากรรม

 มันคือชะตากรรมใช่ไหมที่เราต้องเจอ

ความสูญเสียเป็นเพียงหลักฐานเดียวที่สามารถพิสูจน์ให้ใครอื่นรู้ได้ว่า

เค้าคือคนดีอย่างนั้นใช่หรือไม่?

คุณคิดว่ายุติธรรมแล้วหรือ??
....
....

ภาพสะท้อนของความผิดพลาดครั้งนี้ มันไม่ได้ถูกเผาให้มอดไหม้วอดวาย

ง่ายดายไปพร้อมกับชีวิตของเขา

คุณอาจมีเหตุผลในการกระทำแต่รู้ไหมว่า

คุณกำลังทำร้ายใครบางคนอย่างแสนสาหัส

 และคุณก็กำลังเหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์ของความหายนะไว้ให้ยืดยาว

เหตุผลของคุณฆ่าคนบางคนและกำลังรอฆ่าใครอีกหลายๆคน


~ที่ฉันพูดฉันไม่ได้ต้องการจะทำร้ายคุณหรอกนะ เพียงแต่ฉันมิอาจโป้ปดความจริงกับสิ่งที่ฉันรู้สึกได้~


....วัคซีน....