วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

~เธอคือใคร??~







เธอคือใคร



เธอเข้ามา เธอเข้าใจ  เธอดูเหมือนใส่ใจ 

เธอเหมือนเป็นใครที่อยู่ในฝัน
 

เธอต้องการอะไร ? เธออยากรู้อะไร?
 

หรือเธอต้องการจะสื่ออะไร?


แล้วเธอคิดว่าสิ่งที่เธอทำลงไปถูกต้องแล้วหรือ??
 

..เธอรู้ไหม  พื้นฐานของความใส่ใจ.ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความหวาดระแวง
 

แต่หากจิตของเธอตอนต้น  รายงานผลให้เธอเคลือบแคลง
 

ขอให้เธอเลือกเชื่อฟังในคำสั่งนั้น..ขอให้เธอได้สบายใจเถอะ
...
...เมื่อบางอย่างทำให้เธอต้องหนักใจ....
 
เมื่อการมอบชื่อให้ฉันแล้วทำเธอต้องสูญเสียความบริสุทธิสง่างามไป
เธอก็จงสานกรอบขึ้นล้อมความวิเศษรูปนั้นไว้
มันถูกแล้วที่เธอจะเลือกยืนอยู่บนท่าเรือที่เธอคิดว่าเธอปลอดภัย 

ส่วนฉันขอเลือกล่องเรือออกไปอย่างที่ใจฉันฝัน..ตามเสียงของหัวใจ

...
...

ขอบคุณนะที่ผ่านเข้ามา 
 

ขอบคุณนะที่สร้างความหนาวเหน็บเจ็บๆที่ตรงกลางใจ
ขอบคุณนะที่สร้างรอยหยักใหม่ๆเพิ่มเข้าให้ในสมอง 

ขอบคุณนะที่สอนให้ฉันได้มองเห็นโลกในอีกหนึ่งมุมมอง
 

..ขอบคุณและขอบคุณ..ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ..และหวังว่าเธอก็จะเข้าใจในสักวัน... 


                                                                                                                                ....วัคซีน...






วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

Colour of the wild-Vanessa Williams




~จงฟังเสียงที่ธรรมชาิติกระซิบ~

กาลครั้งหนึ่งเมื่อกิเลสเบ่งบาน ทุกอย่างถูกตีเป็นราคา
เสกสรรสรรพสิ่งให้มีค่าสุกปรั่งดั่งทอง
เพียงหวังในอนาคตได้ครอบครอง
แล้วอนิจจัง คืนฝันก็พังราบ ทุกสิ่งดับลับหายไป 

โอ้เหล่ามวลมนุษย์ เจ้าเป็นสัตว์ประเสริฐหรือคนบาป
ทำลายทุกอย่างเพื่อได้สร้างวิมานใหม่
หากแต่สิ่งที่ได้มา ดั่งฝันร้าย 
ฉายความจริงที่ไม่เคยจินตนาการ

ดังสายฝนที่สาดเทลงมา ในงานแต่งกลางแจ้งแสนโสภา
อัสดงแสงสุดท้าย หาได้งดงามดั่งใจเจ้าเฝ้าฝัน
หายนะที่เจ้าได้มาถือเป็นการชำระหนี้
 ที่เจ้าได้เทกระเป๋าซื้อมันมา
บนเส้นทางที่เจ้าไม่ชอบใจ กับชะตากรรมที่เจ้าไม่เปรมปรี
มันไม่ทำให้เจ้าปลาบปลื้มใจหรอกใช่ไหม
แต่เจ้าก็ได้จ่ายให้มันไปแล้วกับหายนะ

แดดร้อน ลมแรง สายฝนที่สัดสาดไม่ขาดสาย
แท้จริงเป็นเสียงกระซิบของอะไร
 ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมเปิดตาดูและเงี่ยหูฟัง
 กับคำเตือนดีๆ ที่เจ้าควรจะใส่ใจ
 หรือเพราะเจ้าก็ไม่คิด ว่าธรรมชาติจะให้คุณ ถึงเพียงนี้


ภัยพิบัติไม่มีป้ายเตือนใจ
ไม่มีเวลาให้เจ้าได้เก็บกระเป๋าและสั่งลา
แม้แต่คำอภัยโทษจากพระเจ้าก็มาถึงช้าเกินไป
พวกเจ้าทำลายมาทั้งชีวิต เพื่อจะได้ในสิ่งที่เฝ้าฝัน
แต่ชีวิตมันช่างน่าขัน ไม่มีนิจนิรันดร
มีแค่คืนฝันที่ผันผ่าน
มีแค่ความสุขที่เป็นเพียงอัสดงของวันวาน
และนั่นแหละคือความจริง


 ความจริงที่กระทำโดยมีพระเจ้าเฝ้าดู
เมื่อกำลังไปได้สวย พระเจ้าก็เอาคืน
ชีวิตเป็นแค่การถูกหลอกให้ทำตัวตลกน่าอับอาย
 เมื่อได้สติรู้ตัวว่าทุกอย่างกำลังจะเลวร้าย
 มันก็พังครืนลงมาตรงหน้าให้เจ้าต้องช้ำใจ



"นี่หรือชีวิตที่เจ้าเฝ้าฝัน"

  ตัดพ้อมันสิกับชีวิต ที่ไม่เป็นดั่งใจเจ้าหวัง
ทำไมสวรรค์ไม่เคยบอกอะไร 
ทำไมพระเจ้าไม่ส่งจดหมายเตือน
ทำไมชีวิตเป็นดั่งละครที่ไม่มีบท
ทำไมชีวิตเหมือนถูกหลอกใช้ 
ทำไมทุกอย่างในชีวิตดั่งถูกพระเจ้าเล่นตลก

ขบขันกับมันสิชีวิต  ที่ค้นหาแค่ความสุขแต่พระเจ้าไม่เข้าใจ
โทษพระเจ้าสิ ที่ไม่เคยเปลี่ยนความโลภให้เป็นความดี
โทษพระเจ้าสิ ที่ไม่มีฤทธิเดช ทำให้ศรัทธาแจ่มจรัสเฉิดฉาย
ถามกับพระเจ้าสิ ว่าจิตสำนึกทำไมพระเจ้าไม่มอบให้กับมนุษย์ทุกคน


                                                                                                                                        ...วัคซีน...