ฉันเป็นศิลปินผู้โดดเดี่ยวผู้ได้นามว่าเรยา
ผู้อาศัยอยู่บนประภาคารอันเหน็บหนาว
ผู้อาศัยอยู่บนประภาคารอันเหน็บหนาว
ผู้ประทังชีวิตอยู่ได้ด้วยความอร่อยของการดื่มกินกระดาษและตัวหนังสือ
ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ ความเหงา เศร้า ทรมาน มันก็ถูกแทนที่ด้วยบทกวี
ซึ่งเป็นคำที่คอยปลอบประโลมใจ
ซึ่งเป็นความเข้าใจอันบริสุทธิ์
ที่ไม่ใช่การพูดไปเรื่อยเปื่อย
ซึ่งเป็นความเข้าใจอันบริสุทธิ์
ที่ไม่ใช่การพูดไปเรื่อยเปื่อย
ฉันกำลังเดินทางไปยังจักรวาลหนึ่ง
ซึ่งเป็นโลกใหม่..ใบที่ไม่มีคนเกลียดขี้หน้ากัน
ซึ่งเป็นโลกใหม่..ใบที่ไม่มีคนเกลียดขี้หน้ากัน
เป็นโลกที่ทุกคนมีหัวใจเต็มเปี่ยมด้วยความรัก และให้อภัย
ไม่ใช่โลก ที่ทุกหัวใจเป็นได้แค่เพียงถังขยะ
ที่คอยรองรับอารมณ์ของกันและกัน
ที่คอยรองรับอารมณ์ของกันและกัน
ดั่งนั้นฉันจึงเอาแต่เฝ้าฝันถึงเรื่องราวที่ทำให้สงบ..อบอุ่น
แล้วก็เรื่องราวที่ทำให้ทุกคนมีความสุขใจ
แล้วก็เรื่องราวที่ทำให้ทุกคนมีความสุขใจ
แต่ความจริงทำให้ฉันรู้ว่า
ไม่ว่าฉันจะสร้างเรื่องราวที่สวยงามขึ้นมามากมายแค่ไหน
ไม่ว่าฉันจะสร้างเรื่องราวที่สวยงามขึ้นมามากมายแค่ไหน
นั่นมันก็เป็นแค่เรื่องอุปโลกน์
เพราะว่าฉันเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยความหวังที่ไม่มีคนร่วมฝัน
เพราะว่าฉันเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยความหวังที่ไม่มีคนร่วมฝัน
ถึงแม้ว่าเรื่องราวที่สร้างขึ้นมาจะทำให้ทุกคนเคลิบเคลิ้มหลงใหล
เหมือนหมาที่คอยกระดิกหางให้ด้วยความรัก
แต่ไม่เข้าใจคำพูดกันเลยก็ตาม
แต่ไม่เข้าใจคำพูดกันเลยก็ตาม
เมื่อทุกคนไม่เปิดใจยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมาบนโลกนี้
โดยเฉพาะ ความเศร้า เหงา ผิดหวัง พ่ายแพ้ และความทุกข์ทรมาน
เมื่อบทเพลงแห่งซาตานทำให้สวรรค์โศกศัลย์คร่ำครวญเสียแล้ว
เสียงเพลงแห่งนางฟ้าจะสามารถทำให้สวรรค์เงียบงันได้อย่างไร
เมื่อพื้นที่ในใจมีแต่เมฆครึ้มที่มืดมน
มันจะไม่สามารถเป็นสิ่งสวยงามได้อีกแล้ว
มันจะไม่สามารถเป็นสิ่งสวยงามได้อีกแล้ว
...
คุณไม่สามารถเอาชนะผู้คนมากมายได้
"เมื่อคุณสยบยอมต่อสงครามในใจที่คุณได้พ่ายแพ้ไปแล้ว"
"เมื่อคุณสยบยอมต่อสงครามในใจที่คุณได้พ่ายแพ้ไปแล้ว"
มนุษย์ที่ติดอยู่บนโลกแห่งการยึดติด ไม่ยอมรับสภาวะผ่าเหล่าเปลี่ยนใหม่
ไม่เคยบีบสมองให้เล็กลงเพื่อเว้นพื้นที่ไว้ให้หัวใจได้เปลี่ยนแปลง
เป็นได้แค่เพียงเศษซากชีวิตที่อ่อนแอ
เป็นแค่คนที่คอยเก็บเกี่ยวซากจากอดีต
มาสร้างปฏิมากรรมน้ำแข็งเพื่อรอวันละลาย
มาสร้างปฏิมากรรมน้ำแข็งเพื่อรอวันละลาย
เป็นแค่คนที่วันๆเอาแต่นั่งหน้าโต๊ะในมือถือปากกาไว้คอยก่นด่าผู้อื่น
ปลดปล่อยสันดานดิบ..ไปจนถึงหน้าสุดท้ายที่มีแต่แผ่นกระดาษอันว่างเปล่า
วาทกรรมอันโดดเด่น ที่หวังว่าจะสามารถเอาชนะปกปิดทุกสิ่งอย่างได้
"แต่เปล่าเลย"
"แต่เปล่าเลย"
...
สิ่งที่คุณทำได้... สิ่งที่คุณทำเป็น
มันเป็นได้แค่..การทำให้คนๆหนึ่งจมปลักอยุ่กับความรู้สึกผิด
มันเป็นได้แค่..การทำให้คนๆหนึ่งจมปลักอยุ่กับความรู้สึกผิด
ทำให้ทุกคนในโลกจมอยู่กับอดีต
ทำให้ทุกคนในโลกไม่มีวันลืมเรื่องราวเก่าๆได้เท่านั้นเอง
ทำให้ทุกคนในโลกไม่มีวันลืมเรื่องราวเก่าๆได้เท่านั้นเอง
เราบาดเจ็บเพราะการทรยศของความคิดทั้งหลาย
เราฟกช้ำเพราะความคิดของเรา
เราฟกช้ำเพราะความคิดของเรา
และด้วยบาดแผลเหล่านั้นที่ยังไม่เคยได้รับการรักษา
ความเจ็บป่วยของเราจึงหนักหนา จนยาที่จะใช้รักษามันต้องล้ำเลิศที่สุด
และตัวยาแห่งการประสานความรู้สึกนี้
ที่ผู้คนบนโลกแห่งพันธนาการของความคิดยังไม่มีวันเข้าใจ
ที่ผู้คนบนโลกแห่งพันธนาการของความคิดยังไม่มีวันเข้าใจ
พวกเราไม่เคยเข้าใจ...ไม่เคยเลย กับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว สิ่งที่แพ้ไปแล้ว
พวกเราไม่เคยรู้เลยว่า การค้นหาความจริงในอดีต
มันเป็นได้แค่การดมดอมซากศพที่ตัวตนได้ตายไปแล้ว
มันเป็นได้แค่การดมดอมซากศพที่ตัวตนได้ตายไปแล้ว
เรากำลังยืนอยู่ในประตูแห่งความตาย
ที่ความเป็นนายมองมาด้วยดวงตาอันมืดมนไร้ซึ่งความหวัง
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่มันก็แค่สิ่งเดียวที่เราทำได้
ก็คือการกระโดดลงไปในเหวต่อหน้าหมาผู้ซื่อสัตย์
ก็คือการกระโดดลงไปในเหวต่อหน้าหมาผู้ซื่อสัตย์
แม้ว่ามันจะเป็นจุดสุดท้ายของจักรวาลเราก็ควรลงไปใช่ไหม??
...วัคซีน...