วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

~November Nine~






ชีวิตของคนเหงาอยู่กับเงาความฝันในคืนหนาว 
อาทิตย์ส่องแสง กลางคืนเย็นค่ำ
ย่ำเท้าออกไปกับฝันเพื่อดาวดวงนั้นที่ตามหา
แม้คืนวันผันผ่านมา ก็ยังคงรอเวลามองเห็นแสงแห่งฝันทอประกาย

ดวงอาทิตย์อยู่ห่างออกไปเพียงครึ่งฝัน 
ในค่ำคืนที่ฟ้าอาบด้วยแสงของพระจันทร์และดาวหวาน
เรื่อรำน้อยค่อยๆเคลื่อนผ่าน
 แล้วเรื่องราวของวันวานก็ถูกขับขานเป็นกวี

โลกข้างนอกกำลังจะเปลี่ยนไป
 แต่โลกข้างในหัวใจของฉันยังขับกล่อมเสียงดนตรี 
ถึงโลกข้างนอกจะมิได้รอคอยฉันอยู่ทุกที่
แต่โลกข้างในของฉันก็ยังเหมือนเดิม “ คือนั่งเขียนบทกวี

โลกนี้ช่างแสนกว้างใหญ่ แต่หัวใจของฉันมีฝันที่ยิ่งใหญ่กว่า
 ทุกๆค่ำคืนก่อนหลับตา ฉันภาวนาขอให้ดาวดวงนั้นอยู่ไม่ไกล

แต่ดูเหมือนว่าฝันนั้นเคลื่อนไหว
 ก้าวเท้าออกไปกี่ครั้งก็ขื่นขม..ได้แต่เพียรเฝ้าถามกับตะวั
ฝากความฝันลอยไว้กับสายลม
ให้ช่วยห่มบ่มคืนวันอย่าให้ฝันนั้นกลับกลาย
….

ก่อนหลับตาในคืนนี้   โอ้ราตรีไม่มีดาวพราวไสว
 เป็นอีกคืนที่ต้องยืนกดข่มความหม่นไหม้ 
 มีความฝันก็เป็นเหมือนภาพพร่าเบลอไม่เข้าใจ
  ชีวิตยังเวียนว่ายอยู่ในทะเลหัวใจไร้แสงดาว

ในความเงียบสงัดของจิตที่อ่อนไหว 
ในความยิ่งใหญ่ของสรรพสิ่งมากมายที่ตามหา
มีเธอ...มีฉัน...มีตะวัน...มีท้องฟ้า
 มีบทกวีบอกเล่าเรื่องราวของหยดน้ำตา...มีห้วงเวลาอันตราตรึง

ชีวิตคนหนึ่งมีเพียงแต่ความฝัน 
เหมือนตะวันกับท้องฟ้าที่อยู่มั่นเพื่อเดือนดาราเสมอ
ทุกๆวันยังคงไล่ไขว่คว้าหาหัวใจที่ละเมอ
ยังคงฝังชีวิตไว้ในความฝันเพ้อ
สุดขอบฟ้ากว้างใหญ่ค้นหาเท่าไหร่ยังไม่เจอ
โอ้ความฝัน โอ้ละเมอ หรือตัวฉันแค่เพ้อเจ้อไปวันๆ
….
เมื่อความสับสนแต่งแต้มสี ดวงชีวีหมองหม่นจนอ่อนล้า 
โปรดอย่าปล่อยให้ฉันค้นหาฝันบนหนทางที่ดูจะเลือนตา
...ดื่มกินเพียงความศรัทธาของหัวใจ...

“หรือว่าฉันทำผิดพลาดอะไรไป”
เหมือนบางครั้งตัวอักษรที่เขียนไว้ กระโจนออกไปไม่ถูกที่
หรือเป็นเพราะความโชคร้ายของบทกวี
 ที่โลกใบนี้ไม่มีที่กว้างพอให้ลงไป

โอ้เจ้าความรัก...ความฝัน 
หรือเป็นเพราะฉันเองที่ยังไม่ควรจะออกตามหา
ควรจะปล่อยให้มันเป็นเรื่องราวของพรมลิขิตและชะตา
มิใช่เพียงความต้องการ แค่ไขว่คว้าได้มาครอง
......................................................

ชีวิตที่เวียนว่าย อยู่ภายใต้ท้องฟ้า ตะวันและจันทร์ฉาย มีรัก มีพ่าย มีตาย มีชื่น มีขื่นขม
  ฝากหัวใจห่อไว้กับสายลมได้ชื่นชมห่มความหมายให้ชีวี เพียงเท่านี้ก็สุขพอ


                                                                          November nine สุขสันต์วันเกิด...วัคซีน...


                                                               ...วัคซีน...

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

~รักไม่ต้องนิรันดร์~



รักที่เธอไฝ่ฝัน นิรันดรตรงนั้นเธอต้องการมันหรือไร
แล้วเธอรู้จักไหมนิรันดรคืออะไร??
แล้วฉันจะต้องทำมันอย่างไรคนดี??
เธอรู้ไหมแม้ฉันเป็นคนช่างฝันแต่นิรันดรตรงนั้นฉันไม่เคยรู้ว่าจะไปถึงมันอย่างไร
ตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่อยู่ใกล้ใจฉัน
 ขอให้เชื่อฉันและขอให้เธอจงฟังนะคนดี
คำๆนี้ที่ฉันอยากบอกให้เธอฟัง
เรารัก รักกันให้ดีในตอนนี้ ไม่ต้องมีหลอกนิรันดร์
เพราะรัก รักที่ฉันให้เธอในตอนนี้มันคงดีกว่านิรันดร์
เรารัก เรามีกันในตอนนี้ไม่ได้มีอยู่ที่นิรันดร์
อยู่ในนั้นแค่ละเมอ แค่พร่ำเพ้อ แค่เพียงฝัน
แต่ใจฉันมีเพียงเธออยู่เสมอ มีทุกวัน
 เพราะใจฉันเป็นนิรันดร์อยู่เสมอ เพราะมีเธออยู่ในนั้น
แค่เพียงเธอไม่ไหวหวั่น แค่มีเธออยู่ทุกวัน
“ไม่ต้องไปถึงนิรันดร์ก็สุขใจ”

         ...วัคซีน...

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

~ผู้เป็นทาสอันประเสริฐ~






มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย วันคืนล่วงไปๆดั่งสายน้ำไหล เวลาของเจ้าเหลืออยู่เท่าไหร่ เจ้านับสายน้ำนั้นได้ไหม บัดนี้เจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย เจ้าจะขอเอาสิ่งใดจากชีวิต ที่เจ้านับไม่ได้ จากเวลาที่ไม่เคยนับเอาเจ้าไว้ให้เป็นลูกหลานของเค้าต่อไป  บัดนี้เจ้ากำลังแสวงหาสิ่งใดอยู่
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย  ความตายรออยู่ตรงหน้า ยังรบราฆ่าฟัน ยังเมามันในบาป ประมาทในกรรม บัดนี้ความดีไม่ทำ ยังกับเจ้านั้นจะไม่มีวันตาย
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย เจ้าไม่ได้เกิดมาเพื่อชราภาพและอ่อนแอ ชีวิตคือความตั้งใจแน่วแน่เพื่ออยู่ร่วมกันกับสรรพสัตว์เหล่าอื่น บัดนี้เจ้าปฎิบัติตน กับสรรพสัตว์เหล่าอื่นที่เป็นเพื่อนเจ้าอย่างที่สมควรไหม
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย การรู้อะไรล่วงหน้า คือรู้โดยสัญชาติญาณของคน ซึ่งสมองเจ้ารับรู้เพียงชั่วครู่ชั่วยามของความเป็นคน โดยที่จิตสำนึกไม่ได้มีส่วนช่วยเจ้า บัดนี้โดยการรู้นำเอาความอดสูมาสู่เจ้าไหม
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย ถ้าจิตที่ไฝ่ในศาสนา คือความหน้าไหว้หลังหลอกของเจ้า ความเท็จคือชีวิตเจ้า ความว่างเปล่าคือจุดหมายปลายทางแห่งเจ้า บัดนี้เจ้าจะมีชีวิตจิตใจอยู่ไปทำไม
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย ในความสว่างและมืดมน  สุข ทุกข์  เกิด ดับ อิ่มสำราญ อดอยากหิวโหยก็ให้ความรับรู้ปวดร้าวแก่เจ้าได้เท่าเทียมกัน บัดนี้ใยพวกเจ้ายังเฝ้าแก่งแย่งแบ่งกันอยู่
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย พวกเจ้าร่ำรวยในธรรมชาติ แต่ขาดความบริบูรณ์ของชีวิตอันแท้ บัดนี้เจ้าหว่านอะไรอย่างมากลงไปแต่หาเก็บเกี่ยวมรรคผลได้ไม่ เพราะธรรมชาติคำนวณผลของการแลกเปลี่ยนด้วยเล่เหลี่ยมไม่เป็น
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย ครั้งหนึ่งเจ้าเคยเป็นความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งฝีก้าวของเจ้าได้ทำให้แห้งแล้งไป  เคราะห์กรรมก็กำลังจ้องเอาส่วนที่เหลือของเจ้า บัดนี้เจ้ายังหวังอะไรจากชีวิตอันเหลือจากความละโมบหรือ
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย ในขณะที่ความสุขชุบชีวิตแก่หัวใจเจ้าจากความปวดร้าวนั้น ความโง่เขลาก็นำเจ้าไปสู่ความปีติและความรู้อันยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน บัดนี้เจ้าจงแสวงหาแสงแห่งปัญญาเถิด
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย มนุษยธรรมคือดวงวิญญาณแห่งความเป็นเทพ ซึ่งกำลังเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนพลางส่งเสียงพูดถึงความรักและชี้นำให้เห็นหนทางแห่งชีวิต แต่หาได้มีผู้ใดแยแสไม่ บัดนี้ชีวิตจิตใจของพวกเจ้าจึงอ่อนแอ
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย พวกเจ้าเป็นทาสของความพอใจ เป็นทานของกำไร ดื่มกินความเจ็บปวดหวาดกลัวจากถ้วยของชีวิต  บัดนี้ชีวิตเจ้ากลางวันจึงเต็มไปด้วยความทุกข์กลางคืนจีงท่วมท้นไปด้วยน้ำตา
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย อันความยุติธรรมและผู้นำดำรงอยู่ที่ใดเล่า หากเจ้าขาดความรัก อันเป็นความยุติธรรมและเป็นผู้ปกครองในรูปแบบที่สูงสุด บัดนี้เจ้าใยไม่มอบให้แก่กัน
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย มีหลายสิ่งรวมเจ้าเอาไว้ ให้เป็นพี่น้องมากกว่าเป็นศัตรูกัน แต่พวกเจ้ากำลังทำลายความหมายของมันทั้งหมดให้ลดลงไป  ความทุกข์ของเพื่อนร่วมชาติคืออาชญากรรมของเจ้า บัดนี้เจ้าควรได้รับการอภัยไหม
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย เจ้าเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งเกิดจากดินก้อนเดียวกัน เป็นบุตรแห่งดวงจิตอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน เป็นมิตรบนมรรคาแห่งชีวิตและเป็นผู้ซึ่งจะทำให้สัจจะเกิดขึ้นแก่กัน บัดนี้ใยเจ้าถึงไม่มีเมตตาต่อกัน
มนุษย์ผู้ประเสริฐเอ๋ย สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือความกล้าหาญ สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความกล้าหาญ คือคำสัญญา สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคำสัญญาคือพ่อ สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าพ่อ คือแผ่นดิน บัดนี้ชีวิตจากดินก้อนเดียวกันใช้เงินก้อนงามซื้อความภักดีของเจ้าได้ไหม
?????????
...วัคซีน...

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

I'm here ฉันอยู่ตรงนี้ และนี่คือสิ่งที่ฉันเป็น








เคลิบเคลิ้ม มึนเมา หยาบคาย รุนแรง อารมณ์
ดุร้าย องอาจ สุภาพ ถ่อมตน เสรี  อัตตา
หลบเลี่ยง พอใจ สงสัย กล้าหาญ ทรยศ ภักดี ความคิด
ภูมิใจ ร่าเริง สุข เศร้า เหงา ดับสูญ คงอยู่ ชีวิต
.....
ความรู้สึกที่ไม่มีใครรู้ของชีวิต จากชีวิตที่ไม่มีใครรู้จักแต่ก็คือชีวิต
นั่นคือตัวฉัน The Me
ฉันเลี้ยงศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดคือความคิด รับฟังสิ่งที่มีเหตุผลและไม่เคยเพิกเฉยสิ่งที่เกินเลย
และนั้นก็คือสิ่งที่ฉันคิด นั่นคือชีวิตที่ฉันเป็น The self
สวรรค์เท่ากับนรกหัวใจกับวิญญาณใช้เป็นความรู้สึกแทนดวงตา
ฉันเชื่อ ฉันทำ แต่งานของฉันไม่เคยเสร็จสมบูรณ์
ฉันอยู่ท่ามกลางความรู้สึกที่ล้นเหลือ ชีวิตไม่เคยโบยบินแข่งกับเวลา
แม้ทุกวันจะได้บอกลาค่ำคืนอันมืดมิด แต่ไม่เคยมองเห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นตอนเช้า
อรุณสวัสดิ์ของฉันคือสายัญสวัสดิ์ของคุณ
.....
ในความเงียบเดือนปี เคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ แต่ศรัทธาในตัวฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ความกดดันและความเจ็บช้ำสำหรับฉันใช้มันเพื่อเป็นแรงบัลดาลใจ ทุกครั้งที่มี
ฉันมอบชีวิตจิตวิญญาณให้กับความคิด
และฉันก็ถูกความคิดจองจำชีวิตอยู่ในร่างแหที่ฉันถักขึ้นรัดตัวเอง
......
......
สูงขึ้นเหนือท้องฟ้า แจ่มจรัส ณ.ที่ที่หัวใจมีฝันจะโบยบิน
ท่ามกลางความสับสนและความฝันฉันเสียน้ำตา
แต่งกลอนถอนใจกับการถูกลืมอยู่ในเวลาและสถานที่ที่ไม่ต้องปรารถนา
                             ทุกคนจะพากันจดจำและสนใจบทชีวิตแต่ไม่สนว่าฉันจะเขียนมันออกมายังไง
ความเจ็บช้ำ หดหู่ เบื่อหน่าย เสียใจชีวิตเต็มไปด้วยความฝันบนคราบน้ำตา
.....
.....
เข็มนาฬิกากับตัวเลขบางตัวที่ฉันไม่ชอบใจเวลามันเดินผ่าน
และนับจากราตรีกาลอันหนาวเหน็บที่โผล่ออกมาอย่างเฉื่อยชา
จากความวุ่นวายของกลางวันจนมันย้อนกลับไปหารุ่งทิวาอีกครั้ง
"ฉันร้องให้เพราะความดุร้ายของความคิด"
และไม่ว่าราตรีจะช่วยฉันหรือไม่ รุ่งทิวาจะปลอบประโลมหรือขบขันฉันอย่างไร
ฉันก็ยังเฝ้าแต่แต่งบทกลอน ปรอบใจกับความขมขื่นในบทละครแห่งชีวิต
.....
.....
ชีวิตก็เหมือนกับนาฬิกา ที่กำลังเดินบอกเวลา
อนาคตไม่มีใครรู้ว่าจะนานแค่ไหน ปัจจุบันที่มีก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ด้วยความรู้ค่าของชีวิตแต่ไม่รู้จักชีวิตที่เต็มไปด้วยพิศ
ดื่มกินพิศจากชีวิตดุจดั่งเหล้าองุ่นชั้นดี พลิกหนีจากความเป็นจริง
ลืมสิ่งที่ได้รัก เพาะฝังความเจ็บปวด ปิดบังสิ่งที่น่าเขิลอาย
ด้วยกลัวว่าใครจะล้วงเจอความปราถนาที่อยู่เหนือความสัมพันธ์ฉันมิตร
และสุดท้ายความตายก็คืออิสระ นั่นล่ะคือชีวิต และสำหรับผู้ที่รักในชีวิตเท่านั้นถึงจะได้เรียนรู้

...วัคซีน...

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

~ขอให้ความรักโอบกอดคุณไว้~





              ความรักคือห้วงเวลาอันตราตรึง ไม่ใช่ความคล้ายคลึง มิใช่ภาพลวงตาที่คุณพยายามลบมันให้ออกไปจากหัวใจ
ความรัก..เป็นความทรงจำที่งดงามและยังคงหลงเหลือไว้ภายในความรู้สึก
เมื่อความรักได้ถูกจารึกไว้ในคำภีรภาพของชีวิต
 ความงดงามของสิ่งที่ความรักได้สร้างไว้ มิใช่แต่เพียงในหัวใจ
แต่ยังรวมไปถึงในทุกสรรพสิ่ง บนขุนเขา  เหล่าหมู่เมฆ บนต้นไม้ ดอกไม้ สายลม
และยังสถิตอยู่ในแสงของอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวของทุกๆวันและทุกๆค่ำคืน
.....
          เมื่อความรักเคาะประตูหัวใจของคุณเค้าจะกระทำอย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา
มันไม่มีความหมายแต่ทุกครั้งที่หัวใจพาคุณไป มันคือสิ่งที่ความรักต้องการให้คุณทำ
ต้องการให้คุณออกค้นหาการชาร์ตแบตของหัวใจเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์
ความรักมักทักทายกับผู้ที่บริสุทธิใจและมีศรัทธากับความรัก
และเมื่อความรักเคาะประตูหัวใจคุณ คุณจะไม่ยอมเปิดรับต้อนรับผู้มาเยือนหรือ
คุณจะยอมยืนหนาวอยู่ข้างใน หรือจะปล่อยให้ความรักยืนหนาวรออยู่ข้างนอก
เมื่อคุณเปิดรับความต้องการของผู้มาเยือนด้วยหัวใจ เมื่อนั้นชีวิตคุณจะมีพลัง
เพราะคุณค่าของความรักนั้น
คือการทำให้หัวใจคุณสมบูรณ์ ไม่มีสิ่งใดที่ความรักจะทำให้เป็นไปไม่ได้
.....
            เมื่อมนุษย์ผู้ใดได้มีความรัก เค้าคนนั้นจะสามารถยกโลกทั้งใบขึ้นได้ด้วยหัวใจเพียงดวงเดียว
และเมื่อคุณมีความรักขอจงสวดวิงวอนให้กับความงดงามในความรักของคุณ
และเมื่อคุณได้รับเลือกให้เดินอยู่ในขบวนแถวนั้นขอจงสู้กับมันให้ถึงที่สุด
เพราะความรักจะเป็นความแข็งแกร่งและคอยปกป้องเมื่อคุณอ่อนแอ
เมื่อคุณหวาดกลัว ความรักจะช่วยนำพาคุณให้ผ่านพ้นอุปสรรค
เมื่อคุณเหน็บหนาว ความรักจะสวมกอดคุณไว้ เพื่อให้จิตใจคุณสงบ
เมื่อคุณบาดเจ็บ ความรักจะช่วยเยียวยาและบรรเทา
และเมื่อคุณรู้สึกเหงา ความรักจะช่วยให้คุณอิ่มเอม
ขอคุณจงขอบคุณความงดงามในคุณค่าของความรักทั้งหมด
.....
            สำหรับทุกความหมายของคำว่ารักเป็นสิ่งที่เราไม่อาจรู้  
แต่สำหรับความหมายอันเดียวกันที่เราต้องรู้คือ
ความรักเป็นสิ่งที่เราต้องนอบน้อมและศรัทธา
และย้ำถามกับตัวเองอยู่เสมอว่ามันใช่ศรัทธาเดียวกัน
กับที่ชีวิตได้เริ่มต้นรับรู้ถึงมันมาแต่แรกหรือเปล่า 
เพราะเราไม่สามารถรับใช้ความต้องการบางอย่างในหัวใจ
ไปพร้อมๆกับการรับใช้ความรักของทุกสิ่งอย่างในโลกไปพร้อมๆกันได้
เหมือนกับการรับใช้คนสองคนซึ่งอยู่ในสถานะต่างกัน
อย่าทำเป็นเล่นกับความรัก เพราะการยืนหยัดเพื่อความรักไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อคุณต้องการความรัก คุณจะต้องระลึกรู้ถึงมันทุกขณะ
ในทุกๆวัน ทุกๆลมหายใจ และในทุกๆทาง ทุกๆความรู้สึก
.....
และเมื่อคุณไม่สมหวังในความรัก นั่นก็เท่ากับว่าคุณยังไม่ได้รับคำพยากรณ์จากความรัก
คุณแค่กำลังหลงอยู่ในการกระทำบางอย่างของตัวคุณเอง
แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องลงโทษตัวเองเพื่อความรัก
อยู่ในทะเลเพลิงของกองกิเลสตัณหาและอารมณ์
สิ่งที่น่าชื่นชมมันเป็นเพียงแค่ชั่วขณะของความน่ารักใคร่ น่าปราบปลื้ม
น่าหลงไหลหากแต่หาได้เป็นความมั่นใจไม่
หากเป็นความแน่ใจมันจะไม่มีวันจางหายไปจากความรู้สึก
โปรดอย่าได้ทุ่มเททั้งชีวิตจนหมดใจให้กับความรักที่ไม่คุ้มค่าต่อความคิดถึง 
หากคุณจะปลูกต้นไม้ให้ได้ผลพฤกควรปลูกในที่ๆคุณมองเห็นและแสงแดงส่องถึง
....
ขอให้ความรักเป็นปีกอันอ่อนนุ่มคุ้มครองคุณ ขอให้คุณจงอยู่ใต้ปีกของความรักที่บริสุทธิ ขอความรักจงช่วยฟื้นฟูบรรเทา
และค้ำจุนหัวใจที่บอบช้ำแหลกสลายของคุณ
                                     
 ...วัคซีน...