วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

~The beauty side of my fault~4

มีสองสามสิ่งที่มักจะอยู่ผิดที่ผิดทางเสมอ นั่นคือ ศรัทธา ความจริง และคำถาม เราไม่เคยรู้ว่าใครให้คำตอบใครหรือว่าใครที่ให้คำตอบนั้นเป็นแค่คนที่นำอักษรในพจนานุมกรมมาเรียงรวมกันให้เกิดความหมาย แล้วคุณไว้ใจตัวอักษรนั้นได้แค่ไหนในเมื่อมันเป็นแค่ภาคต่อๆของเรื่องราวในพจนานุกรม เมื่อมันกระโดดผึงมาให้คำตอบแก่คุณคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณอาจมีอยู่หลายตัวตน และมันช่างเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ใจจริงๆที่คุณอาจจะรู้สึกปลื้มปิติเสียเหลือเกินกับการส่งต่อความจริงด้วยความห่างไกลความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง อ้าว!!แล้วชีวิตนี้มันคืออะไรกันนะ?ทำไม ศรัทธา ความจริงไม่เคยให้โอกาสเราได้เข้าเยี่ยมชมตามสะดวกเหมือนงานแสดงศิลป์บ้าง เรื่มสับสนในชีวิต..

            ที่นี้ลองหันมาดูระดับออกซิเจนในตัวเองว่าเวลาที่จิตใจสับสนวุ่ยวาย ระบบการหมุนเวียนของโลหิตยังผลิตได้อย่างปกติอยู่หรือเปล่า เมื่อมันไม่ปกติชีวิต คืออะไร? เมื่อมันเป็นปกติชีวิตคืออะไร? สักวันในอนาคตเราต้องรู้หรือ?แล้วคุณไปเอาความมั่นใจในอนาคตมาจากไหน มันมีตั้งหลายวิธีที่จะสำรวจความหวังคร่าวๆให้กับชีวิตเพื่ออยู่รอด ไม่ใช่รอความเป็นจริงมายืนเสนอตัวอยู่ตรงหน้า แล้วเที่ยวโพนทนาว่าข้าเนี่ยตัวจริง การพิจาณาหาความจริงแค่ตระหนักคิดว่าจะทำก็โง่แล้ว อย่าประกอบอาชีพเป็นเงาตามตัวคอยดูพฤติกรรมของความจริงแม้แต่ Part time หรือFull time เพราะมันจะบั่นทอนเงินออมของชีวิตไปกับค่าแรงของความโง่คุณไม่ควรเป็นหนี้ไปมากกว่านี้ด้วยการจับจ่ายความคิดให้กับเรื่องเศร้าๆเพื่อสืบหาความหมายว่า ชีวิตคืออะไรมันไม่มีความหมายจนกว่าความตายจะมาถึง

            จงอ่านความหมายของชีวิตด้วยการทักทายมัน
ว้าวว!! “โอ้เจ้าชีวิตเราจะไปถึงฝันกันยังไงดี? แกช่วยฉันอธิษฐานได้ไม๊?
         “ไม่ได้ฉันใช้คำอธิษฐานไปหมดแล้วตั้งแต่เธอเกิดมา
         “เธอขออะไรไปเหรอ?
         “ฉันขอให้เธอเกิดและมีชีวิต
         “อ๋อที่แท้วันนั้นคือวันที่โคลัมบัสค้นพบทวีปใหม่ เราควรรำลึกถึงเหตุการนั้นด้วยการออกไปสำราญกันไหมเจ้าชีวิต
         “อ้อเธออยากจะทำอะไรในวันนี้เหรอ
         “ฉันอยากทำสถิติโลกด้วยการสร้างอ้อมกอดทลายกำแพงวัฒนธรรม กำแพงความเกลียด ฉันจะสร้างโมแมนตั้มรักด้วยการจัดงานปาร์ตี้ยา"Love"โลก
         “เธอคงบ้าไปแล้วจริงๆ
            “จริงๆนะฉันอยากให้โลกนี้ผลิตยาตัวหนึ่ง ที่จะสามารถเอาชนะความกลัว ความเกลียดจนขึ้นสมองของคนได้
            “เธอจะไม่รู้สึกอับอายกับความสิ้นหวังของต่อมสร้างสุขด้วยตัวเองเหรอ
            “ฉันคิดว่าต่อมสร้างสุขในตัวมนุษย์ทุกวันนี้มันคงโดนโมเลกุลความเกลียด และความกลัวเกาะติดรัดจนเซลล์มันเสื่อมหยุดการเจริญเติบโตและพัฒนาการได้เองไปนานแล้วล่ะ เธอลองคิดดูสิเจ้าชีวิตว่าถ้าความทุกข์หยุดนิ่ง ชีวิตเราจะดีขนาดไหน
            “เธอหวังจะให้จิตใจเธอดิ้นรนไปได้ไม่มีกำหนดด้วยความช่วยเหลือจากละอองความสุขเล็กๆด้วยสารเสพติดความสุขที่เป็นที่ยอมรับกันว่ามันคือปาฏิหารย์ที่จะช่วยซื้อเวลาให้ชีวิตอย่างนั้นหรือ?
            “ใช่เพราะฉันสงสัยเสมอว่าความเล็กๆน้อยๆของความสุขนั้นมันใหญ่โตขนาดไหน
.....
        และแล้วชีวิตก็ไม่มีคำตอบต่อจากฉัน ซึ่งมันก็คงสมเหตุสมผลดีถ้าชีวิตจะทำให้ฉันเป็นคนพิเศษที่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ ฉันคิดอะไรไม่ออก อยากหยุดไว้ตรงนี้ และพยายามคิดดูใหม่ว่าความคิดฉันควรผ่านการปรับเพื่อเอาใจสิ่งแวดล้อม เอาใจโลก เอาใจวัฒนธรรมและคนรอบข้างหรือไม่ คุณคิดว่าไง คุณอยากเขียนเรื่องราวต่อจากฉันไหม ถ้าคำตอบคุณคือใช่ส่งข้อความหาฉัน  แล้วฉันจะเขียนความคิดของคุณเพื่องานฉัน Selfish จังVaczeen..
           ...วัคซีน...


2 ความคิดเห็น:

Arapaima_l3 กล่าวว่า...

ขอบคุณบทความดี ๆ ครับ
อ่านแล้วเหมือนเห็นตัวเองในกระจก ต้องปรับตัว ปรับความคิดแล้วหาความสุขให้ตัวเองซะที

วัคซีน กล่าวว่า...

ขอบคุณที่ติดตามและชอบนะคะ