วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

โลกของฉัน(คือความจริงใจไม่ใช่เกม)


ทางเดียวที่เราจะมองเห็นความจริงของตัวเอง ก็คือการมองย้อนเวลา

เราไม่มีทางรู้ว่าอนาคตข้างหน้าณ.ขณะนี้จะเป็นอย่างไร..เมื่อวันนั้น

เรารู้แต่เพียงว่ามันเคยเป็นยังไง

และมันจะเป็นยังไงอีกต่อไปแค่นั้น...แค่นั้นจริงๆ

….

สิ่งที่เห็นได้ชัดในชีวิตฉันคือ “ไม่มีอะไรที่อยู่กับที่”

เวลาได้พาอดีตทั้งหมดของฉันเคลื่อนที่ออกจากกันด้วยความเร็วมหาศาล

และในขณะที่เวลายิ่งเคลื่อนออกไปเร็วมากเท่าไหร่

ชีวิตฉันยิ่งห่างความจริงออกไปมากเท่านั้น

....

ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนที่ไม่มีความจริงยืนยาว

ฉันรู้สึกว่าเวลาหลอกล่อให้ฉันวิ่งตามหาตัวฉันเอง

แล้วฉันก็รู้สึกว่าตัวฉันเองก็ไม่ใช่ตัวเองในวันนี้

หากวัดจากความเป็นจริงของตัวฉันในวันที่ผ่านมา

....

... เวลาได้เปลี่ยนโลกของฉันราวหลังมือไปได้อย่างไร ???

....

ราวว่าฉันได้สัมผัสโลกใหม่อีกครั้ง

 ฉันคือคนใหม่ทุกๆครั้งที่ฉันตั้งใจมองดูตัวเอง

และฉันก็งงงันในการเปลี่ยนแปลงหลายๆครั้งที่ฉันกำลังมองเห็นตัวเอง..

….

...มันมีอะไรเกิดขึ้นในตัวฉัน...

ฉันสงสัยในตัวเองทุกครั้ง ว่ามันมีอะไรอยู่ในตัวฉัน

ที่ทำให้ฉันเปลี่ยนแปลง

ฉันสงสัยในตัวเองทุกครั้งว่าฉันมายืนอยู่จุดตรงนี้ ตรงนั้นได้อย่างไรกัน?

...ใครนำพาฉันไป?...

เวลาหรือ พระเจ้าหรือ หรือตัวฉัน หรือ..หรืออะไร????

...

ฉันไม่รู้...ทว่า...ฉันก็คิดว่ามิมีผู้ใดรู้เช่นกัน

ความลับนี้ยังคงเก็บลึกแน่นอยู่ในหัวใจของฉัน

หรือ...มีที่อื่นใดอีกไหมในโลกนี้ที่เก็บความลับของฉันไว้

หรือ...มีที่ใดอีกไหมที่จะสามารถเปิดเผยปริศนาคาใจของฉันได้

….

...ฉันเหมือนถูกโดดเดี่ยวให้เดียวดายเพียงลำพัง...

ไม่มีใครรู้จักฉัน

ไม่มีใครรู้ท่วงทำนองของหัวใจฉัน

ไม่มีใครเห็นตุ๊กตาตัวนั้นทำอะไรอยู่ในนิทานเรื่องนั้น

ในวันเหงาๆท่ามกลางราตรีเศร้าๆในโลกสีเทาๆของฉัน

....

...ในนิทานเรื่องนั้น...

ฉันรอคอยแค่ใครสักคนหนึ่งที่มีหัวใจผูกพันกันด้วยความฝันอันเป็นหนึ่งเดียว

ในนิทานเรื่องนั้น

สอนให้ฉันรู้จักการรอคอยใครสักคนด้วยความอดทน

ในนิทานเรื่องนั้น

สอนให้ฉันรู้จักเสียสละทำในเรื่องที่มหัสจรรย์เพื่อให้ใครสักคนรู้สึกว่าเค้าคือคนสำคัญ

.....

...แต่สุดท้าย...

....

ฉันก็รู้ว่าใครคนนั้นที่ฉันรอเค้าอยู่ในนิทานเรื่องนั้น

....

...มันไม่มีอยู่จริง..

....

...และท้ายที่สุด..

....

ฉันก็รู้ว่าชีวิตจริงในโลกของความเป็นจริง

ฉันก็ถูกใครๆดึงให้เข้าไปอยู่ในเกม เกมหนึ่งเท่านั้น

….

เกมนี้ใครจะชนะหรือแพ้ มิได้อยู่ที่คุณเล่นเกมนั้นอย่างไร

และเส้นทางนั้นก็ไม่ใช่วิธีการที่จะรู้ชื่อฉันเสมอไป

เมื่อเกมนี้จบลงไปเพรุ่งนี้ฉันจะกลับไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นอีกครั้ง

....

จุดที่คุณจะพบว่า

....

ถ้อยคำมุสานั้นเปล่าประโยชน์ไร้ค่าปราศจากน้ำหนัก

..และ...

เลื่อนลอยตลอดระยะเวลาที่คุณเฝ้าทำมาด้วยความผยองใจ

....

เพียงคำขอโทษสั้นๆมันก็ไม่มีความหมายที่คุณจะเอื้อนเอ่ยมันออกไป

เพราะต่อจากตรงนี้และตลอดไป...คุณค่าระหว่างเรามันจบลงแล้ว

...วัคซีน...

ไม่มีความคิดเห็น: