วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553

วาทะกฤษณะ มูรติ(ว่าด้วยปัญหาความรุนแรง)

 
  มนุษย์หลายคนในเมืองไทยตอนนี้มีความโหดเหี้ยมอย่างเหลือเชื่อ ความเจ็บปวดมากมายจากความรุนแรงที่หัวใจของมนุษย์บางคนแบกเอาไว้ มันได้ก่อให้เกิดความแบ่งแยกอย่างรุนแรงและนับวันปัญหามันก็ยิ่งบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ   มนุษย์หลายคนล้วนทำตามความคิดและความฝันของคนอื่น ความหวังความฝันและความปราถนาบางอย่างก็ยังเป็นหน้ากากใบหนึ่งที่มนุษย์ถูกชักจูงให้จำใจต้องสวมใส่เอาไว้

       มนุษย์ยึดเอาสงครามไว้ในวิถีชีวิต มนุษย์มีปัญหาเป็นสมบัติส่วนตัวและมีความซ้ำๆซากๆเป็นความจริงที่สุด...

      วันนี้คงไม่มีใครกล้าออกมาบอกว่าเชื่อฉันเถอะเชื่อผมเถอะเพราะที่ผ่านมาก็เป็นเพราะความเชื่อนี่แหละที่เป็นตัวสร้างปัญหา..

      แต่คุณคิดว่าปัญหาและความรุนแรงคือตราบาปและความผิดของคนบางคนไหมหรือมีบางสิ่งบางอย่างกำหนดให้ต้องเป็นอย่างนี้ ..และมันคืออะไรหรือ..????

      ผู้เขียนคงไม่บังอาจเจ๋อบอกว่าเชื่อฉันซิฉันรู้แต่จะขอพึ่งผู้รู้ทางปรัชญาเอาบทความที่เขาได้แสดงทัศนะไว้มาให้อ่านกันนะคะ..ซึ่งผู้เขียนก็ตระหนักและกลั่นกลองด้วยความรับผิดชอบเท่าที่คิดว่าตนเองมีหลายรอบแล้วก็เห็นว่าเป็นอันสมควรดีที่จะนำเสนอ (อันนี้คิดเอาเอง) แต่หากผู้อ่านอยากรู้ว่ามันน่าจะดีหรือไม่นั้นก็ต้องลองอ่านดูนะคะ (เป็นการหลอกล่อให้อ่านอย่างมีพิธีกรรม อิอิ.)


     กฤษณะ มูรติ กล่าวไว้ว่า “ การแบ่งแยกทั้งหลายของชนชาติและเผ่าพันธุ์ล้วนมีอุดมการทั้งหลายเป็นต้นเหตุ” การแบ่งแยกทางอุดมการณ์ ก่อให้เกิดอันตรายที่ไม่อาจคาดคะเน ทำให้เกิดความเกลียดชังและความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน อุดมการณ์ทั้งมวลล้วนโง่เขลา ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์ทางศาสนาหรืออุดมการณ์ทางการเมือง เพราะมันคือการคิดในกรอบ พูดในกรอบ ซึ่งทำให้เกิดการแบ่งแยกมนุษยชาติออกจากกัน

    อุดมการณ์เหล่านี้ชักนำให้เกิดสงคราม แม้จะมีการอดทนข่มกลั้นทางศาสนาอยู่ แต่มันก็สามารถทนได้จนถึงขีดหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นก็คือการทำลายล้าง วิหิงสา ความโหดร้าย ความรุนแรง กลายเป็นสงครามทำลายล้างกันขึ้น

      เป็นไปได้ไหมที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้โดยไม่ก่อความรุนแรง อยู่อย่างมีเสรีภาพ อยู่อย่างมีคุณธรรม เสรีภาพเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง แต่มิใช่เสรีภาพที่จะให้ปัจเจกบุคคลทำอะไรก็ได้ตามที่เขาพอใจจะทำ

       มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะอาศัยอยู่แห่งใดในโลกนี้ล้วนถูกกำหนดด้วยเงื่อนไขทางสังคม ทางวัฒนธรรม ด้วยโครงข่ายความคิดทั้งหมดของเขา เราลองตั้งคำถามกับตนเองซิว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นอิสระจากเงื่อนไขเหล่านี้ ไม่ใช่ในเชิงอุดมคติ หรือในเชิงความคิดแต่เป็นอิสระจริงๆ ทางใจเป็นอิสระอยู่ภายในคุณทำได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ก็ไม่เห็นว่าเราจะมีประชาธิปไตยหรือความประพฤษชอบได้อย่างไรเช่นกัน

     เสรีภาพไม่ใช่สภาวะที่จิตใจถูกยึดกุมคุมขังด้วยความคิด ความคิดไม่เคยมีอิสรภาพ ความคิดเป็นเพียงการตอบสนองต่อความทรงจำ ความรู้ การส่งต่อ การถูกยัดเยียด และจากประสบการณ์เท่านั้น

      ฉะนั้นความคิดจึงเป็นผลผลิตของอดีตเสมอ มันไม่อาจทำให้เกิดเสรีภาพเพราะเสรีภาพเป็นสิ่งที่ต้องดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะ ในชีวิตประจำวัน เสรีภาพมิใช่เสรีภาพจากบางสิ่งบางอย่าง เสรีภาพจากบางสิ่งบางอย่างเป็นเพียงปฏิกิริยาตอบโต้เท่านั้น

       ขบวนการฮิตเลอร์และคอมมิวนิสต์ในอดีตได้อ้างถึงอุดมการณ์ของตนผ่านโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้คนทำตามแนวทางของเขาด้วยการบังคับ ข่มขู่ และการให้คำมั่นสัญญาอย่างลวงๆ เราอาจแลเห็นปรากฏการณ์นี้อุบัติขึ้นที่ใดก็ได้ในโลก

      มนุษย์ให้ความหมายและให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความคิดเสมอ ยิ่งมีความชำนาญเฉพาะมากเท่าไหร่ ยิ่งมีปัญญาฉลาดมากเท่าไหร่ความคิดก็ยิ่งกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวดมากเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องมีคำถามว่า “ความคิดเคยแก้ปัญหาของมนุษย์ได้หรือไม่?????

      ...แล้วคนในเมืองไทยเราล่ะเคยมีคำถามกับตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าตัวคุณ ณ.ขณะนี้กำลังถูกจองจำด้วยอุดมการณ์ ด้านความคิดของสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือของกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยู่บ้างหรือเปล่า ????

    คุณ...ได้ใช้เสรีภาพในการเลือกเสรีภาพให้ตัวเองได้อย่างถูกต้องแล้วหรือไม่ เสรีภาพไม่ใช่ด้วยความคิด
  
     แต่...เป็นเสรีภาพที่จะใช้ชีวิตโดยเป็นอิสระจากข้อผูกมัดทางความคิดหรือคำมั่นสัญญาลวงๆจากกลุ่มคนใดๆ

 ....เราทุกคนในเมืองไทยตอนนี้จะรู้ตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าเรากำลังอยู่ในกรงขังของอุดมการณ์และค่านิยมที่ผู้อื่นยื่นให้และชวนให้เราเชื่อถึงความวิเศษลมๆแล้งๆของสิ่งนั้น แม้คุณจะบอกว่าคุณยินดีที่จะถูกคุมขัง แต่คุณก็จงรับรู้ไว้ด้วยว่า ในกรงขังนั้นแม้มันจะเป็นกรงขังที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีถึงมันจะสวยงามสักเพียงใด หากผู้ถูกคุมขังจะเป็นอิสระได้ก็ต่อเมื่อเขาไม่ได้อยู่ในกรงขังอีกต่อไปเท่านั้น....


                                                                                                          ...วัคซีน...

1 ความคิดเห็น:

vaczeen กล่าวว่า...

มีบทความปรัชญาที่เกี่ยวกับอำนาจของอุดมการณ์หรือวาทกรรมหลักต่างๆบ้างมาเเนะนำอีกบ้างมั่ย ติดตามอยู่ครับ