วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

for give not for get



มีคำพูดที่เป็นอมตะวาจาอยู่คำหนึ่งว่า "ถ้าอยากรู้อนาคตล้วงหน้าต้องหันกลับไปมองอดีต เพราะอดีตที่เป็นประวัติศาสตร์มักจะหมุนย้อนกลับมาจุดเดิมเสมอ"

.....

  วันนี้จะมีใครเคยย้อนกลับไปดูอดีตอย่างจริงกันบ้างไหมคะ ??

      เพราะเรามักไม่ใส่ใจกับสิ่งที่มันผ่านไปแล้ว...เพราะเรามักถูกอบรมสั้งสอนว่าอย่าแคร์ในอดีตให้ลืมมันไปแล้วเริ่มต้นใหม่..  แต่ทำไมชีวิตเราถึงยังต้องวนเวียนย้อนกลับไปในเหตุการเก่าๆอยู่เรื่อยๆเสมอๆ...
เคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่าทำไม??..เป็นเพราะเราลืมมันอย่างนั้นหรือ??...ใช่หรือเปล่า??...

   คงไม่มีใครเชื่อในคำพูดของเงา  น้อยคนนักจะตกใจกลัวในเสียงของเงาคำราม...แต่เหตุการณ์ในบ้านเมืองของเราวันนี้ทำให้ดิฉันคิดได้ค่ะว่า..สิ่งสำคัญที่เป็นเครื่องยืนยันในการมีชีวิตอยู่ของเราคือเงา..

...ดิฉันเคยเขียนบทความนี้เมื่อตอนบ้านเมืองเราเกิดปัญหาเมื่อปีที่แล้วและวันนี้ดิฉันก็เชื่อว่าเหตุการณ์จากปีที่แล้วกับปีนี้มันก็ยังไม่เปลี่ยนไป..เราทุกคนยังยืนกันอยู่บนความรู้สึกเดิมๆ...

.....
.....


วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552


นี่หรือนักการเมืองไทย

เมื่อภาพรอบๆ ตัวเรา ทำให้เราต้องหมดหวัง และสิ่งต่างๆ ที่ล้อมรอบตัวเรา คือความลับและคำโกหก สังคมไม่สามารถให้คำตอบแก่เราได้ว่ามันเกิดอะไร ทุกคนต้องการอะไร ความหวังความยุติธรรม และศรัทธาที่เคยมีมายาวนานจากนี้ไม่เหลือสิ่งใดให้เชื่ออีกต่อไป อนาคตของคนไทยต้องแขวนอยู่กับอะไรและจะหวังพึ่งสิ่งใดได้บ้างในสังคมนี้



ประเทศไทยในตอนนี้ ผู้คนมากมายต่างสวมหน้ากากเข้าหากันภาพสะท้อนที่เห็นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ทุกคนแค่แสดงไปตามบทบาทและหน้าที่ และพร้อมจะโยนบาปปัดภาระความรับผิดชอบให้กับคนอื่นตลอดเวลาเมื่อหมดหน้าที่ของตัวเอง และสุดท้ายคนที่ซวยอย่างแท้จริงโดยไม่มีสิทธิแม้แต่จะหาทางหนีและหาทางหลบต้องโดนผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือประชาชนทั้งหลายที่มีหน้าทีเสียภาษีให้กับพวกมีสีทั้งหลายที่ชอบทำตัวนิสัยไม่ดี

ทำไมคนเราต้องเก็บกดความคิดและความรู้สึกของตนเองทั้งที่ภายในใจเรารับรู้และเรียกร้องบอกกับตัวเองมาโดยตลอดว่ามันไม่ยุติธรรมแต่ทำไมเราต้องยอม


มันจะมีประโยชน์อะไรที่วันนี้เราต่างเชิญคนโน้นคนนี้มาพูดๆๆๆว่าปัญหานี้มันเป็นอย่างนี้และพรุ่งนี้สงสัยว่ามันต้องเป็นไปตาม สถานการณ์อย่างนี้หรือไม่ก็อาจคาดได้ว่ามันอาจจะหนักยิ่งกว่านี้ และแล้วเมื่อพรุ่งนี้มาถึงก็เป็นเหมือนเดิมทุกอย่างจบรายการจบแต่ปัญหายังอยู่ เมื่อแขกรับเชิญทั้งหลายหมดภาระหน้าที่พูดรายการนี้ในวันนี้ต่อไปก็ส่งต่อภาระหน้าที่พูดให้กับอีกคนความวุ่นวายสับสนไม่เคยหายไป กระแสการต่อต้านกันเอง...กระแสจากสิ่งแวดล้อมที่ถาโถมโหมกระหน่ำเข้าใส่ ทุกคนต่างเดาออกว่าเมื่อหมดเรื่องนี้เดี๋ยวก็มีเรื่องใหม่เข้ามา เป็นอย่างนี้อยู่ทุกครั้งและเป็นอย่างนี้อยู่เป็นเวลาอันยาวนานมาพอสมควรแล้ว ต่างคนต่างไม่ยอมรับความคิดเห็นของกันและกัน กฎหมายเมื่อไม่ถูกใจฉัน ฉันก็ต้องการแก้ใหม่แก้เท่าไหร่ก็ยังไม่ถูกใจฉันของอีกคนแล้วก็ออกมาเรียกร้องว่ามันไม่ประชาธิปไตย



ขอถามหน่อยได้ไหมท่านผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลาย ว่าตอนนี้คุณกำลังเล่นอะไรกันอยู่ พวกท่านทั้งหลายอาจหลอกโลกกลมๆใบนี้หลอกประชาชนบนพื้นแผ่นดินนี้ได้บางคน แต่ไม่อาจหลอกลวงหัวใจของตัวเองได้สิ่งที่เป็นหายนะของเมืองไทยตอนนี้ล้วนมาจากฝีมือของพวกคุณทั้งสิ้น ทุกวันนี้กลางคืนพวกคุณนอนหลับสบายดีฝันดีกันบ้างไหม ที่เห็นคนไทยทะเลาะกัน ก่อนนอนคุณกราบหมอนแล้วอธิษฐานอะไรให้กับตัวเองหรือให้คนบนผืนแผ่นดินไทยนี้บ้างไหม ผู้คนทั้งหลายที่พวกคุณบอกกับเขามาตลอดว่าคุณคือคนของเขา คุณจะทำงานเพื่อเขาแล้วตอนนี้คุณเคยย้อนกลับไปถามตัวคุณเองบ้างไหมว่าสิ่งที่คุณได้พูดออกมาคุณเคยเข้าใจคำพูดของตัวคุณเองบ้างหรือเปล่า



มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะมาบอกให้ประชาชนมองย้อนกลับไปให้เห็นความผิดของคนอื่น แล้วมาแก้ตัวกับประชาชนว่าสิ่งที่เรากำลังประสบกันอยู่ในตอนนี้คือสิ่งที่คนอื่นทำทิ้งเอาไว้ ทำให้ประชาชนสงสัย ว่าคนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี พยายามมาบอกให้เข้าใจว่าหากมีกฎหมายนี้อีกต่อไปมันจะทำให้พวกคุณทำงานกันไม่ได้ หรือว่าต่อไปมันอาจจะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างหากปล่อยให้กฎหมายที่ใช้กันอยู่นี้มีผลบังคับใช้ต่อไป เพราะฉะนั้นพวกคุณจึงต้องออกมาบอกว่ามันต้องแก้ใหม่ หรือทำให้ประชาชนอย่างเราเข้าใจว่ากฎหมายที่คุณจะทำขึ้นมาใหม่มันจะทำให้ใครต่อใครปรองดองกัน กฎหมายมีไว้แค่จัดระเบียบสังคมไม่ได้มีผลบังคับใช้ให้จิตใจของคนดีขึ้นมา หากกฎหมายบังคับจิตใจคนได้จริงประเทศไทยคงไม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงเหมือนเช่นทุกวันนี้ คนที่ยกพวกตีกันคงหยุดกันไปนานแล้ว



เพราะฉะนั้นในวันนี้ จึงอยากจะขอบอกอะไรบางอย่างอยากจะให้พวกคุณได้ตาสว่างไว้ ณ.ที่ตรงนี้เลยนะคะว่าพวกคุณคงจะประเมินคนบนพื้นแผ่นดินไทยแห่งนี้ต่ำเกินไป และที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พวกคุณไม่เคยรู้ตัวของตัวเองเลยสักนิดว่าประชาชนตอนนี้เขาเบื่อ เอือมระอา รันทด สลด สังเวช สมเพศ เวทนาพวกคุณกันเสียเหลือเกินพวกเราทั้งหลายบนผืนแผ่นดินไทยสุดจะทนต่อการกระทำของพวกคุณ อยากจะอ้วกออกมาวันละ3รอบต่อวันอยู่แล้วที่ต้องทนเห็นหน้าของพวกคุณด่ากันไปด่ากันมาในทีวี รู้ไหมหากตอนนี้ประชาชนเลือกได้จริงๆ เราทุกคนอยากผลักดันให้เกิดกฎหมายที่ว่าด้วยการสิ้นสุดกันเสียทีให้มีผลบังคับใช้สำหรับพวกนักการเมืองที่ชอบสาดน้ำลาย ทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระทะเลาะกันเป็น10ชาติแล้วก็ไม่รู้จักจบสิ้นกันเสียที เบื่อๆๆๆพวกนักการเมืองเน่าๆๆ

จากเจ้าหญิงวัคซีน รัฐมนตรีกระทรวงความฝัน

เขียนโดย วัคซีน ที่ 3:18 0 ความคิดเห็น ลิงก์ไปยังบทความนี้


ความต้องการของคนเหมือนกับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ จะมีใครรู้บ้างว่ามันจะไปสิ้นสุดตรงไหน เส้นปลายทางของขอบฟ้าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด จะมีใครที่ไหนเคยไปถึงตรงนั้นบ้าง   เหมือนกับชีวิตและจิตใจของผู้คน คนทุกคนรับรู้ว่าตัวเองมีตัวตนแต่ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าในใจของตนจะสิ้นสุดความอยากความต้องการเมื่อใด ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตจะมาวันไหน และวันนั้นตัวเองกำลังทำอะไรอยู่...

 เพราะฉะนั้นชีวิตที่เหลืออยู่จงใช้มันอย่างมีคุณค่า อย่าเอาชีวิตไปล้อเล่นกับเวลา เพราะเวลาไม่เคยปราณีใครและก็ไม่มีใครมีอำนาจไปสั่งให้เวลาหยุดหมุนหรือย้อนหลังกลับไปได้เวลาคือตัวทำลาย มันจะออกหมายคำสั่งให้เราขึ้นเฝ้าพระอินทร์เมื่อไหร่ก็ได้ถ้ามันต้องการ



การมีสติ ความรู้ ความฉลาด และความสามารถเท่านั้นที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จและมีความสุขกับชีวิตของตัวเองอย่างแท้จริง จิตใจและความคิดสามารถสร้างและผลิตอะไรขึ้นมาก็ได้ที่เราอยากไห้มีอยากให้เป็น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการคิดถ้าคิดดีก็สร้างสรรค์แต่สิ่งที่ดี ผิดถูกก็ขึ้นอยู่กับว่าใจเขาใจเราเลือกคิดแต่สิ่งที่ถูกไม่ใช่เลือกให้คนอื่นมาเชื่ออย่างที่ใจเราคิด...คนที่ปฏิเสธความคิดเราเขาไม่ได้เป็นคนผิด ทุกอย่างบนโลกนี้มีดีและไม่ดีอยู่ที่เราจะไขว่คว้า ถามใจตัวเองดูว่าอยากไขว่คว้าเอาสิ่งใด



มีใครสงสัยบ้างไหมว่าคนทุกคนมีหัวใจแต่ทำไมหัวใจของทุกคนกลับไม่เหมือนกันทั้งที่เราอยู่บนที่เดียวกันมีความหิวเหมือนกัน เกิด แก่ เจ็บ ตายเหมือน หัวใจเป็นก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง คนๆหนึ่งก็มีความคิดอย่างหนึ่ง แล้วความคิดที่มาจากใจก้อนหนึ่งทำไมถึงคิดและใช้ชีวิตต่างกัน...
 
 แท้จริงแล้วจิตใจของเราทำงานอย่างไร จิตใจบงการความคิดหรือความคิดปิดบังจิตใจกันแน่ มันเป็นคำถามที่ฉันเองยังสงสัย และยังไม่เคยค้นพบกับคำตอบ สิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ทำการกระทำกับความคิดมักสวนทางกันอยู่เสมอ...

...หรือว่าสัจธรรมที่แท้จริงนั้น  คือ.."ความเศร้ามักเป็นพื้นฐานของความรัก"ถ้าเป็นอย่างนั้นความเศร้าครั้งนี้เราคนไทยทุกคนควรให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่สำคัญที่สุดคือ"เราต้องไม่ลืมว่ามันเคยเกิดขึ้นกับเรา"...
 
 
 
.....
 
...วัคซีน...

1 ความคิดเห็น:

markhun กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับที่ยังติดตามผลงานของผมอยู่ ถ้าคุณวัคซีนชอบงานศิลปะลองเข้าไปดูได้อีก blog นะครับที่ http://the-way-to-art.blogspot.com เป็นอีกบล็อกที่ผมสร้างขึ้น ไว้นำเสนอนิทรรศการ The way to art ซึ่งเป็นการแสดงผลงานประจำทุกปีของนักศึกษา ป.โท ภาควิชาจิตรกรรม มีผลงานและการแสดงออกที่หลากหลายเฉพาะตัว ถ้ายังไงลองคลิกเข้ามาติ-ชม ดูรายละเอียดนะครับ

ในช่วงเดือน สองเดือนนี้ จะมีผลงานชิ้นใหม่ตามมาครับ Title ผลงานประมาณว่า ,ปางประทานอภัย กับ ตามกำลังสัตว์ทา(ผมไม่ได้เขียนผิดนะ)จะออกไปในทางวิพากษ์-วิจารณ์สังคม

ปล.ส่วนที่คุณวัคซีนว่า "ฝากเอาทองคำเปลวไปแปะที่หัวใจนักการเมืองให้หน่อย" ผมว่าอย่าเลยครับ ทองเปลวทั้งประเทศหรือแม้กระทั่งทั้งโลก ก็ปิดหัวใจของนักกินเมือง(ส่วนใหญ่)ไม่พอครับ สิ้นเปลืองเปล่าๆ ปิดทองแล้วก็ใช่ว่าจะกลบเกลื่อนความเน่าเหม็นหรือเปลี่ยนนิสัยของนักกินเมืองทั้งหลายได้ ปล่อยให้เค้าเหล่านั้นเป็นไปตามกรรมเถอะครับ..อิอิ..