วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

~เจ้าหญิงในนิยาย~



ฉันเป็นคนอยู่นอกกรอบ
 และไม่ใช่คนที่อยากจะไปรู้จักรสนิยมของคนอื่นว่าเป็นอย่างไร
 เพราะอารมณ์ของฉันร้อนแรงกว่าลาวา 
หอมหวานเกินกว่าขนมหวานใดๆแต่มันทั้งมีความขมและบาปปนอยู่
...
ฉันใช้ชีวิตอยู่กับศรัทธา ของตัวฉัน
ความงดงามของฉัน ทำให้ฉันสาปส่งความรัก 
ความงดงามของฉันไม่ให้คุณค่าใดๆทางความรัก
ฉันจึงใช้ชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากมัน
...
เพราะความงดงามของฉันเป็นแค่การทำลาย
เป็นดาวอับโชคที่ทักทายต่อความพินาศและสิ้นหวัง
ความยั้งคิดที่อ่อนแอทำลายความสมบูรณ์แบบในตัวตนฉัน
เปลวไฟอันเร่าร้อนนั้น มันถูกดับไปนานแล้ว
...
ด้วยชายผู้กล้าที่นับถืออำนาจราคะว่าเป็นดังศัตรูที่ต้องพิชิตท้าทาย
ชายผู้กล้าที่ทำลายหัวใจให้ บาดเจ็บแหลกสลาย
ชายผู้กล้าที่ยังใส่ใจว่า ความมัวเมาต้องปลดเปลื้องด้วยราคะ
บนชัยชนะที่ได้จากอันตราย และความปวดร้าว
...
ความเป็นจริงทำให้ฉันสูญเสียการมองเห็นความรัก
ความเป็นจริง ทำให้ฉันมองเห็นความรักยิ่งใหญ่แต่ไม่มีค่า
ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เสแสร้งทำเป็นชื่นชอบชีวิตอย่างที่ตนไม่ชอบ
ไม่มีใครสั่งให้ฉันทำในสิ่งที่เกินอำนาจความรู้สึกของตัวฉัน
...
และฉันไม่คิดว่าการไม่มีรักเป็นความทรมาน
 "แต่มันทรมานที่ต้องรู้สึกรักทั้งที่เหินห่าง"
จนแม้กระทั่งศักดิ์ศรีก็ยังถูกทำลายให้แปดเปื้อน
ความทุกข์ทน ความมึนเมา ความเจ็บปวด และความรัก
ทำให้ความคิดอันอ่อนหวานถูกลบล้าง
 และฉันสตรีผู้เศร้าสลดและหม่นหมอง
ผู้ต้องดื่มกินน้ำผึ้งจากคำสาป
ผู้หลงทางอยู่กับอัสดงแสงสุดท้าย
 ที่มีไว้ทดสอบและฝ่าฟันให้ผ่านไปกับชีวิต
จินตนาการทำให้ฉันเคลิ้มฝัน หลุดออกจากความทุกข์ทรมาน
"คือการได้เห็นสิ่งที่ฉันไม่อยากจะเห็น"
หลุดออกจากซากปรักหักพังของชีวิต
ที่พันธนาการตัวฉันเอาไว้
หลุดจากความทรงจำสีดำที่ตามหลอกหลอน
แม้ยามนอนก็ไม่ได้นอน มันสถิตอยู่ทุกที่ที่ฉันมองไป
เป็นดั่งปีศาจร้ายที่ฝังร่างกายติดอยู่กับความนึกคิดของฉัน
มันคล้ายเป็นตัวแทนแห่งความชั่วช้าที่ไม่ยี่หระต่อความดีอันทรงคุณค่า
ดั่งปักษาที่ไม่เบ่งบานและหอมหวานดั่งใจฝัน
สำหรับฉันมันอาจเรียกได้ว่าเป็นคุณค่าแห่งชีวิต
ที่ตกแต่งด้วยความแตกต่าง
เมื่อมันจากไปแล้ว..เหลือเพียงตัวฉัน ที่ถูกทิ้งให้โศกศัลย์คร่ำครวญ
...
กับความสารพัดสาระเพของสิ่งที่เรียกว่าชีวิต
ที่ต้องเติบโตขึ้นมากกว่าที่ใจอยากจะหวังหรือหยุดยั้งเอาไว้ได้
เพราะนี่คือชีวิต นี่คือสิ่งที่ฉันไม่อยากจะคิดถึงกับสิ่งที่ยังคั่งค้างอยู่ในใจ
มันไม่ใช่โลกในความฝันที่ฉันได้ติดอยู่กับรอคอยในอีกนัย ของความฟุ้งซ่านตลอดกาล...


                                                                   ...วัคซีน...

2 ความคิดเห็น:

Noraset Vaisayakul กล่าวว่า...

ขอบคุณมากที่ทำให้ผมรู้สึกว่ายังมีคนที่พยายามเข้าใจตนเอง ในโลกเส็งเคร็งที่มนุษย์ทุกผู้ มองหาแต่ความรู้ แต่ไม่เคยมองหาปัญญา มองหาปราถนาตน แต่ไม่เคยมองเห็นปราถนาผู้อื่น เคยคิดว่าคงสิ้นหวังเสียแล้วที่พยายามมองหาอุดมการณ์ในคนร่วมสมัย ขอขอบคุณอีกครั้ง และคารวะอย่างจริงใจ
ปล.ผมชอบที่คุณเขียนมาก ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างงานศิลปะต่อไป

วัคซีน กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ:)