วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

เสรีภาพที่ถูกสาป




บทกวีที่คุณได้อ่านมันกลั่นออกมาจากหัวใจที่ไร้สี

ไม่มีวิถีแห่งอัตตา ไม่มีกฎแห่งเวลา

ไม่มีกรอบความรู้หรือทฤษฎี อันเป็นที่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด

 เขียนจากหัวใจที่เรียนรู้ เขียนจากความอัดอั้นที่อยู่ในส่วนลึก

 เขียนจากศาสตร์ของความนึกคิด ณ.วิถี แห่งสมดุล


.....


ณ.ดงผู้ดีในป่ามายาขับด้วยเสียงก่นด่าและเห่าหอน

ร่ำร้องด้วยปรารถนาดุจความบ้าของคนจร

ดวงจิตไม่นิ่งนอน เอาความเขลาเป่าสั่งสอนสร้างความเง่ากับเหล่าชน

เมื่อวิถีเก่าหมดสิ้นไป บทเริ่มต้นแห่งอัตตาใหม่เริ่มสร้างตน

ควาญแสวงหาอำนาจ กำราบคน ไม่เคยอยู่เหนือพ้นความจำเจ

สร้างภาพบังเอิญแห่งมายา กวัดแกว่งวลีลวงตาสร้างหมู่ชน

 มุ่งหวังบัลลังใหญ่เพื่อหลุดพ้น ดิ้นรนแหวกว่ายอย่างซ้ำซากลำบากใจ

ร่ำร้องถวิลหาอิสรภาพจากปลายหมึกและน้ำลาย

 หากดวงจิตกลับลบหลู่ในความหมาย

 ไม่เคยเฝ้ามองในสรรพสิ่งที่สูญสลาย

ทุกอย่างที่เวียนว่ายและตายดับ

ตระบัดสัตย์ต่อสัจจะในหัวใจ ทำลายธารน้ำใจผู้ทุกข์ทน

 ทั่วทุกจิตไม่หลุดพ้น อัตตาครอบตนทั่วทุกนาม

เราจึงแต่งบทกวีจากความรู้สึก

ให้หมู่มวลชนจงระลึกในวิถี

จงสงบนิ่งแล้วเพ่งมองลงมาที่ชีวี

จงอยู่เหนือวิถีความวุ่นวาย

ไร้อัตตา ไร้สี ไร้กระบี่ ไร้ที่มา

ใช้เสียงในใจนำทางสร้างศรัทธา จงค้นหาโลกาข้างในตน

 เฝ้ามองดูสรรพสิ่งที่เวียนว่ายและตายดับ

...แล้วจงหวนกลับไปยังจุดเริ่มต้น...

 รวมหัวใจ สองสี สองจิต สองวิญญาณ...

รวมความรัก..ทั้งความคิดความหวัง ความรู้สึกและทุกข์ทน

 ฟื้นคืนตื่นสู่โลกใหม่ในใจตน

ลบเสียงบ่นก่น นินทา เสียงแว่วด่า เสียงกังขาให้หมดสิ้น

 ฟื้นคืนโลกใหม่ให้ชีวิน นั่นแหละคือ"ผู้ละสิ้นแห่งตัวตน"

"ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ในคนบาป สหภาพไม่ก่อเกิดในหมู่คนสองหัวใจ"


                                                                      ...วัคซีน...

ไม่มีความคิดเห็น: