วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

โรคระบาดที่มากับสื่อ

หากเป็นเมื่อก่อนมีเงินเรียกว่าน้อง มีทองเขาเรียกว่าพี่ แต่สมัยนี้ถ้าใครอยากดูดี กิ๊บเก๊ ไฮโซ โก้ กู๊ด ก็ต้องใช้ของแบรนด์แนม ถือกระเป๋า ลูกละแสน มีรองเท้าเป็นร้อยคู่เป็นอย่างต่ำ เปลี่ยนแฟนควงไม่ซ้ำหน้า และถ้าให้ดีแฟนที่ควงออกงานต้องมีชื่อติดอันดับอยู่ในม่านฟ้าเมืองไทย หรือไม่ก็ต้องห้อยท้ายด้วยตำแหน่งของลูกไฮโซลูกนักการเมือง คุณสมบัติอย่างนี้ถ้าใครทำได้ ผู้นั้นก็จะได้ชื่อว่า เป็นผู้ดีไฮโซ เป็นอภิมหาเศรษฐี เป็นผู้ร่ำรวย มันก็เลยมีปรากฏการณ์ของโรคระบาดชนิดหนึ่งที่เราเรียกกันว่า โรคฉันต้องมีให้ได้ เพราะถ้าหากฉันหามาไม่ได้ฉันก็จะได้ถูกใครๆตราหน้าฉันว่าเป็น คนโลโซ โบ๊เบ๊สเลก้า ไก่กาอาลาเร่ นี่คือเบื้องหลังความคิดของเด็กรุ่นใหม่ในยุคของโลกที่กำลังวิวัฒนาการไปอย่างไม่หยุดหย่อน

ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนย่อมแสวงหาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและประสบความสุขบ้างพอสมควรตามหลักความเป็นจริงทางธรรมชาติและพอใจในสิ่งที่เราหามาได้ด้วยตนเอง นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องและสมควรที่จะต้องพึงปฏิบัติให้ได้ แต่ทุกวันนี้ที่เราปฏิบัติกันเกินความเป็นจริงก็เพราะเราถูกอิทธิพลของสื่อที่ครอบงำเราอยู่ทุกเมื่อชั่ววัน และในสื่อที่นำเสนอสิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกวันก็ช่างทุ่มทุนสร้างสารพัดวิธีเหลือเกินที่จะไปดึงดูด ชักจูงกิเลสความชอบความต้องการของคนให้สำแดงผลออกฤทธิออกเดชเกิดความอยากได้จนไม่อาจจะมีสติควบคุมตัวเองได้เลย หากเราจะยังพอมีสติเราจะสังเกตได้ว่ามนุษย์ทุกคนไม่ว่า จะเป็นไฮโซ จนถึงโลโซ มียศหรือไม่มี ทุกสีผิว ทุกชนชั้นไม่ว่าจะเป็นใครๆก็จะต้องถูกครอบงำด้วยความไม่แน่นอนของโลกใบนี้ภายใต้ดวงอาทิตย์แห่งนี้ทุกชีวิตล้วนประกอบขึ้นด้วยประสบการณ์ที่เป็นหลักสากลมีผลกับทุกชีวิตและบัญญัติมาให้กับเราทุกคนแล้วตั้งแต่เกิด นั่นคือ ความสูญเสีย ความผิดหวัง ความสมหวัง ความรัก และวิวัฒนาการไม่มีใครสามารถฝืนกฎของธรรมชาตินี้ได้

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีความเปลี่ยนแปลงทางสังคมวิวัฒนาการทั้งหลายของโลกใบนี้ที่เราเห็นกันมาโดยตลอดในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ หากสังเกตดูให้ดีแล้วสิ่งต่างๆเหล่านี้มันหาได้มีผลมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเราไม่ เราก็ไม่ได้ว่าจะมีหัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า ความก้าวหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงให้ทุกคนมีความคิดก้าวหน้าได้ทุกคน เราเป็นคนผลิตให้สิ่งต่างๆที่เรียกว่าเทคโนโลยีเกิดขึ้นมา และเราก็ยังอยู่ในฐานะที่เลือกได้ว่าวันนี้เราจะใช้มันในรูปแบบไหน สิ่งสำคัญอยู่ที่วิธีที่เราใช้มันต่างหาก เมื่อเราตั้งใจใช้มันให้เกิดคุณค่ามันก็จะเพิ่มคุณค่าให้กับเราหากเลือกที่จะบั่นทอนคุณค่าในตัวเองมันก็ยังเป็นสิทธิของเราที่จะสามารถกระทำได้ แต่อยู่ที่ว่าทำแล้วคุ้มค่าหรือเปล่าเท่านั้นเอง

สังคมไทยทุกวันนี้เราทุกคนควรจะลุกขึ้นมาให้ความสนใจตามให้ทันสื่อและปรับความรู้สึกของเรากับสื่อเสียใหม่ ไม่ใช่อะไรก็เชื่อไปหมดเสียทุกอย่าง จากปรากฏการณ์ที่เราเห็นสื่อประคมข่าวเรื่องนักศึกษาที่พากันขายตัวเพื่ออยากได้ของหรู ตามอย่างดารา และไฮโซที่เขาใช้กัน หรือท่าทางและพฤติกรรมของวัยรุ่นไทยสมัยนี้ที่นับวันก็ชักจะกลายเป็นมนุษย์เกากลีกลับชาติมาเกิดกันไปหมดแล้ว เรากำลังไม่มีความภาคภูมิใจในความเป็นตัวเองไม่มีจุดยืนของตัวเอง และเมื่อเกิดปัญหาก็มาโทษเด็กว่าไม่มีความคิด มันไม่ยุติธรรมสำหรับเด็กเลยที่เขาแค่มีความคิดที่ตามไม่ทันสื่อแล้วต้องมาโดน พวกคนสูงๆหัวแข็งนั่งทำวิจัยวิจารณ์ถูกสังคมด่าว่าเขาแรงๆ สีทุกสีที่แต่งแต้มให้เด็กมันไม่ใช่แค่สีดำแต่มันยังเป็นสีที่ฝังลึกในหัวสมองของเขาให้รู้ด้วยว่าฉันไม่ดีไม่มีอะไรดีเลยทำอะไรก็ผิด ทำไมการที่อยากใช้ของดีมันผิดตรงไหนแล้วถ้าไม่ดีทำไมต้องเอา ดารา ไฮโซมาแข่งกันโชว์ของต่างๆทั้งหลายให้เห็นอยู่ทุกวัน ผู้ใหญ่ทั้งหลายก่อนจะทำอะไรคิดถึงหัวใจเด็กไทยบ้างนะคะ

ตามความเป็นจริงชีวิตไม่ได้ต้องการอะไรมากมายอย่างที่เราคิด สิ่งของที่มีค่าที่เราตั้งคุณค่าให้กับมันของสิ่งนั้น ก็เป็นแต่เพียงแค่สมบัติภายนอกที่ใช้ไปแล้ว..ก็หมดสิ้นไป.. สมบัติอันล้ำค่าที่สุดในชีวิตของเรา เป็นสมบัติภายใน..นั่นก็คือ..ปัญญา หากเรามีปัญญารู้จักคิดคิดให้เป็นคิดให้พอดีเราก็จะไม่ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อในสิ่งที่ไม่จำเป็นกับความเป็นอยู่ของเรา น้องๆทุกคนไม่ผิดเพียงแต่วันนี้หลงผิดไปคิดตามสื่อเท่านั้นเอง ไม่ว่าใครก็เป็นคนพิเศษทั้งนั้นเมื่อเราได้เกิดขึ้นมาแล้ว โลกนี้ยังเป็นมิตรกับเราเสมอสู้ สู้นะคะเด็กไทยคนเก่ง

ไม่มีความคิดเห็น: