วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552

ฝันร้ายที่ไม่เคยจางหายไป

ค่ำคืนแห่งความเงียบเหงาฉันนั่งดูหมู่ดาวส่งแสงพร่างพราวอยู่บนท้องฟ้า สาดส่องมาที่ตัวฉัน หากนี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความฝันฉันขอให้ลำแสงที่สาดลงมาเป็นเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่าดวงดาวก็มองดูฉันเช่นกัน ฉันอยากให้ดาวล่วงรู้ความฝันกอปรกับคำอธิฐานในใจของฉันที่มีและช่วยบอกกับฉันทีว่ามันจะต้องเป็นจริง ฉันไม่อาจรู้ว่าดวงดาวจะรับรู้หรือเปล่า และไม่รู้ว่าดาวจะมองฉันเหมือนอย่างที่ฉันมองดาวไหม และไม่รู้ว่าดาวรู้ไหมว่าฉันเป็นใครเฝ้ารออะไรในแต่ละวัน แต่ทำไมฉันถึงมีความฝันดาวเธอจะมีฝันเหมือนอย่างฉันไหม การเดินตามความฝันและการเฝ้ารอความฝันไปวันๆดาวคิดว่ามันคือความฝันที่เพ้อเจ้อหรือเปล่า ดวงดาวจ๋าเธอจะรู้ไหมว่าเทพนิยายในใจฉันคือความฝันที่ฉันได้แต่เฝ้ารอ

หากความเงียบหมายถึงการรับฟัง ฉันอยากฝากเรื่องราวที่มีอยู่ในใจส่งผ่านความเงียบไปขอให้ดวงดาวรับรู้เอาไว้ว่าชีวิตที่ผ่านพ้นความโหดร้ายยังคงมีกลิ่นไอแห่งความตายที่ยังไม่เคยจางหายมันทำร้ายฉันเรื่อยมา แผลเป็นแห่งความเจ็บปวดหลักฐานของการฆ่าตัวตายรสชาติที่ฉันไม่เคยลืมมันได้ เหมือนใบมีดโกนที่อาบยาพิษไว้กรีดลงกลางใจฉันทุกวันและทุกวินาทีที่ฉันต้องอยู่คนเดียว

ความโกรธแค้นและความรักบันทึกเรื่องราวในใจฉัน ความเจ็บปวดอันแสนขมขื่นความรู้สึกสั่นไหวสนิมร้ายที่เกาะกินใจขอโปรดเถอะดวงดาวช่วยเอามันออกไปจากใจของฉันได้ไหม และโปรดบอกกับฉันให้มั่นใจว่าต่อไปฉันจะไม่เจอกับปีศาจร้ายที่มันคอยจ้องทำลายตามหลอกหลอนฉันมาหลายปีช่วยบอกกับมันทีว่าอย่ามาตามรังควาญฉันอีกเลย เพราะฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆนี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะบอกออกไปอยากให้ใครๆได้เข้าใจและรับรู้ ในขณะที่นั่งจ้องมองดวงดาว ได้โปรดเถิดดวงดาวขอจงรับฟังและช่วยส่งพลังให้ฉันที

ไม่มีความคิดเห็น: